ค้นหาบล็อกนี้

วันอังคารที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2559

*หลักการเลือกศัลยแพทย์ ทำหน้าอก ทำจมูกฯ และปัญหาต่างๆหลังการผ่าตัดเสริมเต้านม

สมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทย สมาคมวิชาชีพที่แท้จริงของงานด้านศัลยกรรมตกแต่ง เฉกเช่นเดียวกับนานาอารยประเทศ สมาคมส่งเสริมการรักษามาตรฐานการประกอบวิชาชีพทางด้านศัลยศาสตร์ตกแต่ง พัฒนาทางด้านวิชาการและมาตรฐานการรักษา เพื่อประโยชน์แก่ประชาชนโดยรวม

เป็นเรื่องแน่นอนที่การผ่าตัดทุกชนิดอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ไม่พึงประสงค์ได้ ไม่ว่าจะทำโดยผู้ที่มีความชำนาญเพียงใด การผ่าตัดเสริมเต้านมก็เช่นกัน เมื่อคิดจะเสริมเต้านม ควรทราบก่อนว่ามีเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ใดจะเกิดขึ้นได้บ้าง จะได้เตรียมใจและเตรียมรับมือได้ถูกต้อง

ปัญหาต่างๆหลังการผ่าตัดเสริมเต้านม

สามารถแบ่งได้เป็นข้อๆ ดังนี้
  1. เลือดคั่งภายในโพรงที่วางเต้านมเทียม (hematoma)
  2. แผลติดเชื้อ (wound infection)
  3. แผลผ่าตัดแยก (wound dehiscence)
  4. วางเต้านมเทียมในที่ที่ไม่เหมาะสม (implant malposition) เช่น เต้านมเทียมสองข้างห่างกันเกินไป วางตำแหน่งต่ำเกินไป สูงเกินไป ออกข้างมากเกินไป เต้านมเทียมสองข้างมีระดับไม่เท่ากัน เป็นต้น
  5. เต้านมชิดรวมกันกลางหน้าอก (symmastia)
    เต้านมชิดรวมกันกลางหน้าอก
    ภาพจาก http://news.sanook.com/gallery/gallery/1645137/450709/
  6. หัวนมชา (change in nipple sensation)
  7. ขยับ (กระดิก) เต้านมได้ (breast animation)
  8. เต้านมเกิดพังผืดหดรัด แข็งตัว ผิดรูป (capsular contracture)
  9. ถุงเต้านมเทียมทะลุออกภายนอก (implant extrusion)
  10. ถุงเต้านมเทียมแตกรั่ว (implant deflation, gel bleed)
นอกจากภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัดโดยตรงแล้ว ยังเกิด ภาวะแทรกซ้อนจากการดมยาสลบ หรือ การให้ยาระงับความรู้สึกได้อีกด้วยในลักษณะเดียวกับการผ่าตัดอื่นๆที่ทำภายใต้การดมยาสลบ
จะเห็นได้ว่า มีภาวะแทรกซ้อนมากมายที่อาจเกิดได้จากการเสริมเต้านม แม้จะทำด้วยเทคนิคมาตรฐาน ด้วยเต้านมเทียมมาตรฐาน และทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ลองคิดดูว่า ถ้าหากเรานำเต้านมเทียมที่ไม่มาตรฐาน ซิลิโคนที่ตกเกรด ไม่ผ่านการรับรองโดยองค์การอาหารและยา อะไรจะเกิดขึ้น ผลแทรกซ้อนที่เกิดอาจมากมายถึงขั้นก่อให้เกิดมะเร็ง หรือผลเสียที่ร้ายแรงกว่านั้นได้
ดังนั้นการตัดสินใจเลือกศัลยแพทย์ผ่าตัดที่มีความรู้ความชำนาญจึงสำคัญมาก เนื่องจากการผ่าตัดด้วยเทคนิคที่ถูกต้องโดยศัลยแพทย์ที่ชำนาญ ไม่เพียงลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนให้ต่ำที่สุดแล้ว ศัลยแพทย์ที่เชี่ยวชาญยังสามารถจัดการปัญหาได้ทันท่วงทีเมื่อมีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้นอีกด้วย

แล้วใครละ ที่ควรจะเป็นผู้ทำผ่าตัด

คำตอบคือ ต้องเป็นศัลย์แพทย์ตกแต่งเท่านั้น !!!!
แพทย์ที่จะสามารถผ่าตัดเสริมเต้านมให้ท่านได้อย่างปลอดภัยนั้น ต้องได้ผ่านการฝึกอบรมในสาขาศัลยศาสตร์ตกแต่งและเสริมสร้างมาอย่างถูกต้อง จนได้รับวุฒิบัตรเป็นผู้เชี่ยวชาญสาขา “ศัลยศาสตร์ตกแต่ง (Plastic Surgery)” ข้อนี้เป็นมาตรฐานสากลที่เป็นที่ยอมรับ
หากท่านไปพบแพทย์ ที่คลินิกหรือโรงพยาบาล ควรมองหาวุฒิบัตรจากแพทยสภาที่ตรงกับชื่อนี้เท่านั้น ไม่ใช่ชื่ออื่นๆที่ตั้งขึ้นเพื่อให้ดูเหมือนๆกัน เช่น เวชศาสตร์ผิวพรรณและความงาม เวชศาสตร์เพื่อการเสริมสวย ฯลฯ
ท่านอาจไม่ทราบว่า ศัลยแพทย์ตกแต่งที่ผ่านการฝึกอบรมมานานถึง 5 ปี กว่าจะมาผ่าตัดเสริมเต้านมได้นั้น ต้องได้รับการเรียนและฝึกฝนจนมีความรู้ความสามารถในการผ่าตัดเสริมเต้านมได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเสริมเต้านมแบบใช้ถุงซิลิโคนหรือการเสริมสร้างโดยใช้เนื้อเยื่อตนเอง และยังเป็นผู้ที่ต้องรู้และสามารถแก้ไขภาวะแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้นจากการผ่าตัดเสริมเต้านมได้เป็นอย่างนี้ ซึ่งทั้งหมดนี้ผู้ที่ไม่ได้ผ่านการฝึกอบรมในสาขาศัลยศาสตร์ตกแต่งเต็มหลักสูตร เช่น อาศัยการดูงานไม่กี่เดือน จะไม่สามารถทำได้

มีผู้ถามเข้ามาว่า...มีงบห้าหมื่นบาท จะเสริมเต้านมที่ไหน ?

เกริ่นความเข้าใจเบื้องต้นดังนี้
ต้นทุนที่เป็นตัวกำหนดค่าใช้จ่ายสำหรับการทำผ่าตัดเสริมหน้าอกเพื่อความสวยงาม ขึ้นกับปัจจัยพื้นฐานหลักๆดังต่อไปนี้
  1. ชนิดหรือยี่ห้อของเต้านมเทียมที่จะนำมาใช้เสริมหน้าอก – ปัจจุบันเต้านมเทียมยี่ห้อที่มีชื่อเสียงมากที่สุดขายให้กับแพทย์ในราคาไม่ต่ำกว่า 15,000 บาท
  2. สถานที่ที่จะใช้ทำการผ่าตัด - การผ่าตัดในโรงพยาบาลมีต้นทุนต่างๆที่มากกว่าการผ่าตัดที่คลินิก แต่ระบบความปลอดภัยสำหรับการผ่าตัดในโรงพยาบาลย่อมมีมากกว่า เช่น ระบบการปรับอากาศ ความชื้นและความสะอาดในห้องผ่าตัดโรงพยาบาลดีกว่าห้องผ่าตัดในคลินิก จำนวนบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลมีมากกว่า เครื่องมือทางการแพทย์รวมทั้งกรณีฉุกเฉินถึงชีวิต ทางโรงพยาบาลมีความพร้อมมากกว่า ค่าใช้จ่ายของโรงพยาบาลสำหรับการผ่าตัดเสริมเต้านมจึงสูงกว่า ส่วนใหญ่แล้วไม่ต่ำกว่า 3-4 หมื่นบาท
  3. วิธีที่จะระงับความเจ็บปวด - การใช้ยาดมสลบก็จะมีต้นทุนมากกว่าในส่วนของวิสัญญีแพทย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้อง แต่แน่นอนว่าความปลอดภัยย่อมมีมากกว่าการระงับความรู้สึกโดยไม่มีวิสัญญีแพทย์
  4. การครอบคลุมการดูแลหลังการผ่าตัดของแพทย์ - เป็นปัจจัยที่หลากหลาย เพราะขึ้นกับข้อตกลงของแพทย์แต่ละท่าน
ในที่นี้จะไม่กล่าวถึง การตั้งราคาเพื่อกลไกการตลาด หรือการโฆษณา เพราะถูกนำมาใช้กับแพทย์เพียงบางส่วนเท่านั้น บ้างก็ตั้งราคาสูงเกินไป ตามความเชื่อว่า เมื่อราคาสูง น่าจะมีคุณภาพดีกว่า
จากที่กล่าวมา จึงไม่สามารถแนะนำแบบฟันธงได้ว่า ถ้ามีงบประมาณดังกล่าวแล้วควรทำที่ไหน แต่สำหรับภาวะการณ์ปัจจุบัน ราคาดังกล่าวมีโอกาสน้อยที่จะได้รับสิ่งที่ดีที่สุด และรายละเอียดที่อยู่ในแต่ละหัวข้อข้างต้น คุณจะรู้ได้ก็เมื่อมีโอกาสเข้าไปปรึกษาพูดคุยสอบถามแพทย์ ได้เห็นห้องผ่าตัดและห้องพักฟื้น ก่อนจะพิจารณาว่าคุณควรตัดสินใจทำผ่าตัดกับแพทย์ท่านนั้นได้หรือไม่

คำถามที่ท่านควรถาม เช่น

  • เต้านมเทียมที่จะใช้ ยี่ห้ออะไร ท่านควรจดบันทึกแล้วนำกลับไปค้นคว้าเสียก่อน และเมื่อจะเข้ารับการผ่าตัด ท่านก็ควรจะได้เห็นเต้านมเทียมจริงที่จะใช้ ในชนิด ขนาดและรูปร่างแบบที่ได้ตกลงไว้กับแพทย์ ท่านควรได้หลักฐานของเต้านมเทียมที่ได้ใช้ไปกลับบ้านไปด้วย ไม่ว่าจะกล่อง คู่มือ เลขประจำสินค้า นี่ไม่ต่างจากการที่ท่านไปซื้อกระเป๋าแบรนเนม มองหากล่อง ใบรับประกัน ฯลฯ
  • ขอดูสถานที่ที่จะทำผ่าตัดได้หรือไม่ ทั้งนี้เนื่องจากจะเป็นการผ่าตัดที่มีวัสดุแปลกปลอมใส่เข้าไปในร่างกาย สถานที่ที่จะใช้ในการทำผ่าตัดต้องได้รับการรับรองมาตรฐาน โดยเฉพาะเรื่องการควบคุมเชื้อโรคในทุกขั้นตอน มีมาตรการการป้องกันการติดเชื้อหลายขั้นตอน หากท่านได้เคยเข้าห้องผ่าตัดในโรงพยาบาลใหญ่ๆ ท่านจะเข้าใจได้โดยง่าย
  • แพทย์ที่จะทำการผ่าตัดให้ท่าน จบการศึกษาอบรมแบบใดตามมาตรฐานแพทยสภา ท่านควรนำชื่อและนามสกุลของแพทย์ไปสืบค้นที่เว็บไซต์ของแพทยสภา 
  • เว็บไซต์ของสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทย การค้นหาศัลยแพทย์ตกแต่งตัวจริง
  • และเว็บไซต์ของสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งเสริมสวยแห่งประเทศไทย การค้นหาศัลยแพทย์ตกแต่งตัวจริงเสียก่อน อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจผ่าตัดในทันทีที่ได้ไปปรึกษาแพทย์ในครั้งแรก
  • สิ่งสำคัญที่สุดก่อนการทำผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งเสริมสวย คือ การสื่อสารทำความเข้าใจกับแพทย์ที่จะทำการผ่าตัดในทุกด้านก่อนการผ่าตัด และควรมีความรู้เกี่ยวกับผลข้างเคียงที่มีโอกาสเกิดขึ้น ตกลงแนวทางการแก้ไข รวมไปถึงค่าใช้จ่ายในกรณีที่เกิดปัญหาต่างๆขึ้น ให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจเลือกทำ

เต้านมเทียม มีวันหมดอายุมั้ย และ ถ้าหมดอายุทำให้นมเน่าได้จริงหรอ ???

ต้องเข้าใจก่อนว่า เต้านมเทียมนั้นมีองค์ประกอบ 2 ส่วนที่สำคัญ คือ ตัวถุงและสารที่อยู่ในถุง (สารที่บรรจุอยู่ในถุงนั้น เมื่อก่อนใช้ซิลิโคนเหลว liquid silicone แต่ปัจจุบันได้มีการพัฒนาเปลี่ยนมาเป็นซิลิโคนเจลที่เรียกว่า cohesive silicone gel กันหมดแล้ว ซิลิโคนเจลแบบปัจจุบันจะไม่เหลวไหลออกจากที่ เพราะมีคุณสมบัติจับตัวกันเอง)
ต้องขอบอกว่า ตัวถุงเต้านมเทียมทุกยี่ห้อนั้นมีโอกาสที่จะเกิดการแตกรั่วได้ โดยอัตราการเกิดการรั่วนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 7 % ใน 10 ปี (ข้อมูลจากการวิจัยโดยใช้ถุงนมที่ได้มาตราฐาน สำหรับถุงเต้านมเทียมที่ไม่ได้มาตรฐานนั้นจะมีอัตราการรั่วมากกว่านี้) และเมื่อเกิดการรั่ว แล้วร่างกายจะมีปฏิกิริยากับสารที่รั่วออกมาอย่างไร
ต้องขอตอบแบบนี้ว่า การรั่วของถุงเต้านมเทียมนั้นจะแบ่งการรั่วเป็น 2 ชนิดคือ
  • มีการรั่วซึม แต่ซิลิโคนเจลยังคงอยู่ภายในโพรงหน้าอกที่มีถุงเต้านมเทียม - การรั่วชนิดนี้ มักไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อเต้านมหรือผิวหนังใกล้เคียง เพราะการรั่วลักษณะนี้ ร่างกายยังมีเยื่อพังผืดหุ้มเต้านมเทียมหุ้มไว้อีกชั้นหนึ่ง
  • การรั่วซึมของซิลิโคนจากภายในถุงเต้านมเทียมออกมานอกโพรงหน้าอกที่มีถุงเต้านมเทียม - การรั่วลักษณะนี้ ต้องมาดูก่อนว่า สารที่อยู่ในถุงเต้านมเทียมนั้นเป็นอย่างไร เช่น ถ้าเป็นน้ำเกลือ ร่างกายก็สามารถดูดซึมได้ แต่ถ้าเป็นซิลิโคนเหลว ก็อาจเกิดปฏิกิริยากับเนื้อเยื่อของร่างกาย เช่น อาจมีอาการอักเสบแดง ถ้าเป็นซิลิโคนเจลแบบใหม่ก็มักจะไม่เกิดปฏิกิริยาใดๆเลย
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ทำการเสริมเต้านมมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว เช่น มากกว่า 5 ปีขึ้นไป ควรทำการตรวจเต้านมของท่านด้วยตนเองเป็นประจำ รวมไปถึงการกลับไปพบแพทย์ที่ทำการเสริมให้ท่าน และการตรวจด้วยเอกซเรย์ ก็จะช่วยให้มีความปลอดภัยมากขึ้นนะครับ ขอให้ทุกท่านโชคดีกับการผ่าตัดเสริมหน้าอกนะครับ
สมาคมศ้ัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทย
สมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทย

หลักการเลือกศัลยแพทย์

การเลือกศัลยแพทย์ที่จะมาผ่าตัดให้เรา น่าจะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด หากเราหวังผลให้การผ่าตัดออกมาได้ผลดี
หลักการง่ายๆที่สามารถนำไปใช้ปฏิบัติได้ ก็คือ เลือกศัลยแพทย์ที่มีความรู้ความสามารถอย่างแท้จริงในการรักษาผ่าตัดที่เรากำลังสนใจ
แน่นอนว่า สำหรับประชาชนทั่วไปย่อมไม่ทราบว่า ศัลยแพทย์คนใดมีความรู้ความสามารถดังที่เราหวัง ทางสมาคมฯจึงขอแนะนำในลักษณะนี้
  • การผ่าตัดคล้ายกับการขึ้นรถรับจ้างจำพวกแท๊กซี่
  • ถ้าเรารู้จักผู้ขับขี่ก็ดีไป แต่ถ้าไม่รู้จักผู้ขับขี่ เราคงต้องพยายามทำความรู้จัก นั่นก็หมายความว่า เราไม่ควรรีบตัดสินใจผ่าตัดรักษา จนกว่าจะมีข้อมูลเกี่ยวกับศัลยแพทย์คนนั้นก่อน อาจต้องเดินทางไปพบปะพูดคุยกันมากกว่าหนึ่งครั้ง
  • ถ้าผู้ขับขี่มีใบขับขี่ที่ถูกต้อง ในกรณีนี้ก็คือ ผ่านการฝึกอบรมในสาขาศัลยศาสตร์ตกแต่งและเสริมสร้างมาอย่างถูกต้อง จนได้รับวุฒิบัตรเป็นผู้เชี่ยวชาญสาขาศัลยศาสตร์ตกแต่งและเสริมสร้าง เราจะน่าจะสบายใจได้ในระดับหนึ่ง ผู้รับบริการจึงควรมองหาวุฒิบัตร หรือสอบถามจากทางแพทยสภา
  • ถ้าผู้ขับขี่รู้จักจุดหมายปลายทางเป็นอย่างดีก็จะเป็นการดีไม่น้อย แต่ในข้อนี้ ประชาชนทั่วไปคงไม่ทราบ นอกเสียจากจะเคยได้พบกับผู้โดยสารคนก่อนหน้านี้ ซึ่งก็คือ คนไข้คนก่อนๆของแพทย์คนนั้น ได้เห็นผลงานในอดีตของศัลยแพทย์คนนั้น
  • ศัลยแพทย์คนนั้นเป็นผู้ที่มีจรรยาบรรณที่ดี ตรงนี้สำคัญมาก เพราะศัลยแพทย์บางคนอาจจะฝึกอบรมมาจริง ได้รับวุฒิบัตรจริง แต่ประพฤติปฏิบัติในทางเสื่อมเสีย ใช้วิธีการผิดๆ หรือหลอกลวง ซึ่งทางสมาคมฯจะไม่ยินดีให้เป็นสมาชิก ซึ่งประชาชนสามารถติดต่อสอบถามกับทางสมาคมฯได้โดยตรง

ขั้นตอนการเลือกศัลยแพทย์


เริ่มต้นอย่างไรเมื่ออยากรับบริการด้านศัลยกรรมตกแต่งและการเลือกแพทย์

เทคโนโลยีปัจจุบันทำให้ผู้ที่ต้องการรับบริการ ด้านศัลยกรรมตกแต่ง เข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้ง่าย กว้างขวาง และรวดเร็ว ในทางกลับกัน ข้อมูลมากมายดังกล่าวมีโอกาสทำให้เกิดความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง หรือเกิดความสับสน ดังนั้นจึงนำเสนอแนวคิดบางประการ ตามลำดับดังนี้
  1. เตรียมตัวหาข้อมูลในเรื่องที่สนใจ เพื่อให้มีความเข้าใจเรื่องนั้นๆ และเตรียมคำถามก่อนพบแพทย์
    เมื่อเกิดความคิดที่ต้องการทำศัลยกรรมตกแต่งในเรื่องใด สามารถหาข้อมูลความรู้ได้จากแหล่งต่างๆ ที่เชื่อถือได้ เช่น บทความเชิงวิชาการ ที่มีเหตุและผล มีข้อดีข้อเสียอยู่ในเนื้อหา  การรับข้อมูลจากผู้ที่มีประสพการณ์มาก่อน ถือเป็นแหล่งข้อมูลหนึ่งที่สามารถนำมาพิจารณา แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นข้อมูลที่เชื่อถือได้ทั้งหมด เพราะอาจจะมีความเชื่อ อารมณ์ และการชักจูงแอบแฝงได้

  2. ขอคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
    ท่านควรทราบข้อมูลเกี่ยวกับแพทย์ให้มากที่สุด
    นอกจากจะต้องมีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมจากจากแพทยสภาเพื่อแสดงความเป็นแพทย์แล้ว ศัลยแพทย์ตกแต่งทุกคนจะมีวุฒิบัตรหรืออนุมัติบัตรจากแพทยสภาด้วย นอกจากนี้ศัลยแพทย์ตกแต่งที่ผ่านการทำงานอย่างน้อย 1 ปี โดยมิได้มีปัญหาใดๆในการทำงานในช่วงเวลาดังกล่าวและมาสมัครเป็นสมาชิกของสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทย ก็จะมีรายชื่อที่ตรวจสอบได้จากเว็บไซต์ของเรา
    อย่างไรก็ตาม จะมีศัลยแพทย์ตกแต่งบางท่านซึ่งเป็นส่วนน้อย ที่ไม่ได้สมัครสมาชิกของสมาคมฯ หรือบางท่านอาจถูกถอดถอนออกจากการเป็นสมาชิก ท่านสามารถตรวจสอบกับสมาคมฯได้
    ด้วยเหตุนี้ ท่านจึงควรตรวจสอบกับเว็บไซต์ของแพทยสภาเสมอ ว่าแพทย์ที่ท่านสนใจเป็นศัลยแพทย์ตกแต่งหรือไม่
    ตรวจสอบแพทย์ที่เว็บไซต์แพทยสภา (ตัวอย่างว่าเป็นศัลยแพทย์ตกแต่งตัวจริง)

    ให้เวลาในการสื่อสารความต้องการของตนเองให้แพทย์เข้าใจตรงกัน
    เป็นเรื่องปกติที่แพทย์ต้องการข้อมูลความชัดเจนของผู้มาขอรับบริการ เพื่อประเมินและวางแผนการผ่าตัด อาจจะใช้ภาพตัวอย่าง เพื่ออธิบายว่าชอบไม่ชอบอย่างไร แต่ไม่ใช่เลียนแบบ เพราะผลหลังผ่าตัดที่ดีจะเหมาะสมกับสภาพปัญหาหรือความต้องการของแต่ละราย มากกว่าการทำเพื่อเลียนแบบ
    ควรสอบถามข้อมูลรายละเอียดที่จำเป็นต้องทราบ เช่น ข้อจำกัดของโครงสร้างตัวเอง ความคาดหวังผลที่จะได้ หรือผลข้างเคียงที่มีโอกาสเกิดขึ้น รวมไปถึงการดูแลหลังทำ และแนวทางแก้ไขกรณีเกิดผลข้างเคียง

    รับข้อมูลมาไตร่ตรอง คิดรอบคอบก่อนทำ ไม่ใช่ว่า..ทำแล้วเกิดปัญหา..บอกว่ารู้แบบนี้ไม่ทำดีกว่า”
    เนื่องจากแพทย์แต่ละท่านจะมีประสบการณ์ ความคิดเห็น มุมมองที่แตกต่างกัน ข้อมูลที่ได้รับจึงไม่ใช่ข้อสรุปสุดท้ายที่ต้องรีบด่วนตัดสินใจทำตามคำแนะนำในทันทีทันใด เมื่อมีความสงสัยหรือไม่แน่ใจ ให้กลับมาทบทวนตั้งแต่ต้นใหม่อีกรอบ หรือสอบถามจากแพทย์ท่านอื่นๆ แล้วนำข้อดีข้อเสียทั้งหมดกลับมาถามตัวเองว่าสมมุตเกิดเรื่องที่แย่ที่สุด จะรับได้หรือไม่ ถ้าคิดว่ารับไม่ได้เลย ให้อยู่เฉยๆจะไม่เกิดปัญหา หรือถ้าเกิดแล้วมีทางออกในแบบที่รับได้หรือไม่

  3. ตัดสินใจ……
    ไม่ง่ายแต่ก็ไม่ถึงกับยากจนเกินไป ถ้ามองทุกอย่างในแง่ดี อย่างน้อยที่สุดที่ควรจะได้รับ คือ ความสบายใจหลังทำ เพราะไม่มีทางที่ทำแล้วจะให้ทุกคนชอบทั้งหมด หรือมีโอกาสที่ไม่ได้ผลที่ต้องการทั้งหมด จากข้อจำกัดของโครงสร้างตัวเอง และไม่มีใครสรุปได้ว่า แพทย์คนใดเก่งที่สุด เชี่ยวชาญในเรื่องใดมากที่สุด หรือแพทย์ที่มีชื่อเสียงที่สุดอาจจะไม่ได้ทำให้คุณเกิดความพอใจได้ เพราะส่วนใหญ่ของการทำศัลยกรรมตกแต่ง โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับความสวยงาม เป็นเรื่องของมุมมองที่แตกต่างกัน ความชอบ ความรู้สึก รวมไปถึงบางรายก็มีผลตอบรับจากคนรอบตัวเป็นปัจจัยร่วมด้วย
อย่างไรก็ตาม หลักการที่ให้ไว้จะช่วยเป็นแนวทางให้กับผู้ที่ไม่ทราบว่าจะเริ่มต้นอย่างไรได้มีข้อคิดและนำไปประยุกต์ให้เข้ากับความต้องการของตัวเอง
เลือกแพทย์ที่เข้าใจสิ่งที่คุณต้องการ (ไม่ใช่ตามใจ) มีเวลาให้ตั้งแต่ก่อนทำ สามารถนัดติดตามผลหลังทำได้

ข้อควรระวังเมื่อต้องการจะทำศัลยกรรมตกแต่ง

  • ทำศัลยกรรมความงามด้วยความต้องการของตัวเราเอง อย่าทำเพราะราคาถูก เพราะเพื่อนชวน เพราะหมอชวน ประชดแฟน
  • อย่าเชื่ออะไรง่ายๆ เช่น เว็บไซต์ที่พูดว่า หมอคนนั้นคนนี้ดี มักจะมีการปั่นเว็บโดยการเขียนเชียร์กันเอง
  • อย่าหลงเชื่อและทำผ่าตัดกับผู้ที่ไม่ใช่ศัลยแพทย์ตกแต่งตัวจริง เช่น ผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม ศัลยแพทย์ตกแต่งใบหน้า
  • อย่าคิดว่า ศัลยกรรมจะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างสมบูรณ์แบบ เช่น จมูกสวยตรง 100% ตาเท่ากัน 100% ไม่มีแผลเป็นเลย
  • มักไม่มีวิธีใหม่จริง คือ อย่าหลงเชื่อคำโฆษณาว่า วิธีการนั้นเป็นวิธีใหม่ล่าสุด ไม่เคยมีใครทำมาก่อน ไม่มีข้อเสียเลย
  • ถ้าเจอหมอที่ชักชวนให้ทำโน่นทำนี่ ให้รีบถอยห่าง อย่าด่วนตัดสินใจ
  • วิธีการหรือวัสดุที่แพงไม่ได้ดีกว่าเสมอไป ท่านอาจกำลังถูกหลอกด้วยการตั้งราคา
  • มีแพทย์ในสาขาอื่นที่มิได้ฝึกอบรมทางด้านศัลยกรรมตกแต่งและเสริมสร้างเต็มรูปแบบ (plastic and reconstructive surgery) แต่ตั้งชื่อใกล้เคียงกัน เช่น ศัลยกรรมตกแต่งใบหน้า เช่นนี้ไม่ใช่ศัลยแพทย์ตกแต่ง
ตรวจสอบ  รายชื่อแพทย์จากฐานข้อมูลแพทยสภา คลิ๊ก..?
ตรวจสอบ  รายชื่อศัลยแพทย์ตกแต่งแสดงตามชื่อ คลิ๊ก..?
ที่มา : http://www.plasticsurgery.or.th/pub_knowledge_news.php?news_id=21

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Follow Us On