ค้นหาบล็อกนี้

วันศุกร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2559

8 โบกี้ ที่เพชรบุรี ตาย3 เจ็บ34 (ชมคลิป)

รถไฟตกราง 8 โบกี้ ที่เพชรบุรี ตาย3 

เจ็บ34 (ชมคลิป)

รถบรรทุกวัวขับฝ่าเครื่องกั้น ชนรถไฟดีเซลรางขบวน 255 ธนบุรี-หลังสวน ตกราง 8 โบกี้ บริเวณจุดตัดระหว่างเพชรบุรี-เขาทะโมน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย เจ็บนับสิบราย ทีมกู้ภัยเร่งนำเครื่องตัดถ่าง เปิดตัวตู้โดยสารเพื่อนำคนเจ็บออกมา...


เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 8 ม.ค. 2559 รถไฟดีเซลรางขบวน 255 ธนบุรี-หลังสวน ออกจาก กทม.แล้วเกิดอุบัติเหตุ ได้มีรถสิบบรรทุกวัววิ่งฝ่าเครื่องกั้นทางรถไฟ ขณะขบวนรถวิ่งผ่านถนนเสมอระดับทาง มีเครื่องกั้นแบบคานระหว่าง เพชรบุรี-เขาทะโมน เข้ามาชนขบวนรถไฟ ทำให้มีตู้โดยสารตกราง 8 คัน รางรถไฟ และหมอนคอนกรีตเสียหายเป็นระยะทาง 200 เมตร มีผู้บาดเจ็บจำนวนมากกว่า 10 ราย จนท.กู้ภัยเร่งใช้เครื่องตัดถ่างเพื่อนำเอาผู้บาดเจ็บออกจากขบวนรถ ส่วนผู้เสียชีวิตติดอยู่ในรถไฟ 2 ศพ เป็นพระภิกษุ 1 รูป และชายไม่ทราบชื่อ1 ส่วนคนขับรถบรรทุกวัว เสียชีวิตคาที่ 



จนท.ทั้งทีมกู้ภัย และทหารเร่วช่วยกันนำเอาผู้บาดเจ็บออกมาจากตู้โดยสาร


ตู้โดยสารพลิกคว่ำล้อหลุดหมด

เบื้องต้นได้รับรายงานว่า รถบรรทุกวัวขับฝ่าเครื่องกั้นบริเวณจุดตัดระหว่างสถานีรถไฟเพชรบุรีและสถานีรถไฟเขาทโมน หม่2 ต.โพไร่หวาน  อ.เมืองเพชรบุรี พุ่งชนช่วงท้ายขบวนของรถไฟขบวน 255 ธนบุรี-หลังสวน ขณะกำลังวิ่งผ่านจุดตัดที่เกิดเหตุพอดี จึงเกิดเหตุสลดดังกล่าวขึ้น รายละเอียดเพิ่มเติมจะแจ้งให้ทราบต่อไป.
ส่วนห้องคนขับของรถบรรทุกถูกตัดหายไป


พบร่างคนขับรถบรรทุกวัว อยู่ใกล้ๆ ซากห้องคนขับ


เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บอีกหลายสิบคน


เหตุเกิดตรงจุดตัดที่มีเครื่องกั้นแบบคานระหว่าง เพชรบุรี-เขาทะโมน

มีรายงานเพิ่มเติมตอนบ่าย ที่รพ.พระจอมเกล้า จ.เพชรบุรี มีผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุครั้งนี้ ถูกนำส่งรักษาตัวทั้งหมด 34 คน ส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บไม่มาก ส่วนผู้เสียชีวิต มีการยืนยันจากทางโรงพยาบาลว่า มีผู้เสียชีวิต 3 ราย เป็นพระภิกษุ 1 รูป ชายไม่ทราบชื่อ 1 คน และคนขับรถบรรทุกวัว ตายในที่เกิดเหตุ
ส่วนสาเหตุ จากการสอบสวน มีพยานเห็นว่า ก่อนเกิดเหตุ เครื่องกั้นทางรถไฟทำงานปกติ มีรถยนต์จอดรอให้รถไฟวิ่งผ่านอยู่หลายคัน ขณะนั้นเองรถบรรทุกวัวได้วิ่งเข้ามาลักษณะเหมือนกับเบรกไม่อยู่ คนขับได้หักหลบออกขวาชนฝ่าไม้กั้นเข้าไปพุ่งชนตรงโบกี้ที่ 7 ของขบวนรถไฟ ที่มีทั้งหมด 9 ตู้ จนขบวนรถไฟตกราง ลักษณะตู้รถหลุดออกจากล้อเหล็กลงไปอยู่ในทุ่งนา ส่วนรถบรรทุกส่วนหัวถูกชนจนหลุด คนขับตายคาที่ วัวที่บรรทุกมาด้านหลังจำนวน 21 ตัว ได้รับบาดเจ็บ บางตัวเลือดออกนอนอยู่กลางถนน
ล่าสุด ทราบชื่อ ผู้เสียชีวิต ที่เป็นคนขับรถบรรทุก ชื่อนายเล็ก ยอดโมกข์ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35 หมู่ 12 ต.บางบัวทอง จ.ปทุมธานี เสียชีวิตติดคาที่นั่งคนขับ ใกล้กันพบศพ นายสมชาย อาคำ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52/12 หมู่ 4 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เด็กติดรถรถขนวัว กระเด็นออกมาตายอยู่นอกรถ
ตรวจภายในตู้รถไฟตู้ที่ 6 ซึ่งตกรางอยู่ข้างทาง พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นพระภิกษุ 1 รูป ทราบชื่อต่อมาคือ พระภิกษุยืน ทองวี อายุประมาณ 70 ปี จำพรรษาที่วัดหนองยิงหมี ต.หนองตาแต้ม อ.ปราณบุรี
สอบสวน นายสมชาย นาคแสนพยา พนักงานขับรถไฟ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ขบวนรถไฟวิ่งออกจากสถานีรถไฟเพชรบุรี มุ่งหน้าสู่สถานีปลายทางที่ อ.หลังสวน จ.ชุมพร เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งห่างจากสถานีเพชรบุรีประมาณ 5 กิโลเมตร ขณะที่หัวรถจักรและขบวนรถผ่านจุดกั้นรถไฟไปเกือบครึ่งขบวน ได้มีรถบรรทุก 10 ล้อคันดังกล่าววิ่งมาทางเส้นทางสายเพชรบุรี-หาดเจ้าฯ มุ่งหน้าเข้าเพชรบุรี มาด้วยความเร็วสูง เข้ามาพุ่งชน บริเวณตู้ที่ 7-8 ของขบวนรถไฟ จนเป็นเหตุให้ตู้รถไฟที่ 6-9 ตกรางพลิกคว่ำ มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ นอกจากนี้ อุบัติเหตุดังกล่าว ทำให้รางรถไฟเสียหายบิดงอยาวกว่า 300 เมตร ไม้หมอนปูนพังเสียหาย
ทางด้าน นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบอุบัติเหตุ บนรถบรรทุกน้ำมันตกรางที่ จ.ลำพูน ได้เดินทางกลับ เพื่อไปตรวจสอบที่เกิดเหตุที่จ.เพชรบุรี ทันที โดยรายงานเบื้องต้น ทราบว่า รถบรรทุกคันดังกล่าววิ่งฝ่าสัญญาณเครื่องกั้นถนนเข้ามาชนขบวนรถ และบริเวณที่เกิดเหตุเป็นทางผ่านมีเครื่องกั้นถนน มีพนักงานคอยควบคุม
ทั้งนี้ การรถไฟฯ ได้กักขบวนรถด่วนพิเศษที่ 43 กรุงเทพ-สุราษฎร์ธานี ไว้ที่สถานีเพชรบุรี และขบวนรถธรรมดาที่ 254 หลังสวน-ธนบุรี ไว้ที่สถานีหัวหิน โดยขนถ่ายผู้โดยสารทางรถยนต์ พร้อมส่งขบวนรถช่วยเหตุอันตรายไปยกตู้โดยสารที่ตกรางแล้ว ขณะที่มทบ.15 จ.เพชรบุรี ได้นำรถบัส 2 คัน พร้อมเจ้าหน้าที่ทหาร นำผู้โดยสารที่เหลือไปส่งยังสถานีรถไฟชะอำเพื่อเดินทางต่อไปแล้ว
สำหรับการแก้ไขปัญหาจุดตัดเสมอระดับทางรถไฟ-รถยนต์ในปี 2559 ของการรถไฟฯ ปัจจุบันเหลือการแก้ไขอยู่ 525 แห่ง โดยจะสามารถดำเนินการแก้ไขติดตั้งอุปกรณ์เครื่องกั้นได้จำนวน 200 แห่ง แต่ละจุดใช้งบประมาณในการดำเนินการ 3.1 ล้านบาท ส่วนจุดตัดรถไฟที่เป็นทางลักผ่าน ปัจจุบันมีอยู่ 584 แห่ง ซึ่งการรถไฟฯ อยู่ในระหว่างติดตั้งไฟสัญญาณ คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในปีนี้.  

ที่มา : http://www.thairath.co.th/content/559865

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Follow Us On