ค้นหาบล็อกนี้

วันจันทร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2559

*ต้อนรับ....จำลอง อบอุ่น กำนันตำบลท่าล้อ

ต้อนรับ....จำลอง อบอุ่น กำนันตำบลท่าล้อ ,ประธานชมรมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านอำเภอท่าม่วง ,วิชัย ลิ้มเจริญ กำนันตำบลท่าม่วง , นิพล เฮงเส็ง (นุ เพชรรัตน์) นายกสมาคมศิษย์เก่าท่าม่วงราษฎร์บำรุง,ประยูร สุธาบูรณ์ ผอ.รร.ท่าม่วงราษฏร์บำรุง ร่วมต้อนรับและแสดงความยินดีแก่ ท่านจำรัส กังน้อย ในโอกาสเดินทางมารับตำแหน่ง นายอำเภอท่าม่วง(คนใหม่) ณ บ้านพักนายอำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี
ที่มา https://www.facebook.com/pimkannews/posts/819506644781341
*******************************************************************************

ชาวท่าล้อ เมืองกาญจน์ค้านไม่เอาฟลัดเวย์ หวั่นผลกระทบต่อพื้นที่เกษตร และที่อยู่อาศัยกว่า 400 ครัวเรือน

ชาวท่าล้อ เมืองกาญจน์ค้านไม่เอาฟลัดเวย์ หวั่นผลกระทบต่อพื้นที่เกษตร และที่อยู่อาศัยกว่า 400 ครัวเรือน
        กาญจนบุรี - ชาวบ้านตำบลท่าล้อ เมืองกาญจนบุรีกว่า 400 คน จัดเวทีลงมติคัดค้านไม่เอาฟลัดเวย์ โครงการขุดคลองระบายน้ำสายใหม่ ขาณุวรลักษบุรี-ท่าม่วง หวั่นผลกระทบต่อพื้นที่เกษตร และที่อยู่อาศัย เผยหากโครงการดังกล่าวรัฐบาลทำสำเร็จก็จะทำให้ชาวบ้านในตำบลท่าล้อ เดือดร้อนทั้งหมด 5 หมู่บ้าน พื้นที่เกษตรกร และที่อยู่อาศัยจะเสียหายรวม 4,600 ไร่ ที่อยู่อาศัยจะได้รับผลกระทบ 400 หลังคาเรือน
       
       เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (9 ก.ค.) นายจำลอง อบอุ่น กำนันตำบลท่าล้อ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี นายสมเกียรติ สมรภูมิ แกนนำ พร้อมชาวบ้าน ต.ท่าล้อ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี กว่า 400 คนได้เปิดเวทีแสดงความคิดเห็นเพื่อลงมติตามโครงการขุดคลองระบายน้ำสายใหม่ ขาณุวรลักษบุรี-ท่าม่วง
       
       นายจำลอง อบอุ่น และนายสมเกียรติ สมรภูมิ ร่วมกันกล่าวว่า ตามที่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และกรมชลประทานมีโครงการขุดคลองขนาดใหญ่ เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก โดยทำการศึกษาโครงการขุดคลองระบายน้ำสายใหม่ “ขาณุวรลักษบุรี-ท่าม่วง” ยาวประมาณ 289 กิโลเมตร ผิวน้ำกว้าง 120 เมตร ลึก 10 เมตร ก้นคลองลึก 80 เมตร เพื่อรองรับการผันน้ำมาจากทางภาคเหนือ 5 จังหวัด คือ จ.กำแพงเพชร นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท และ จ.สุพรรณบุรี เข้าสู่ จ.กาญจนบุรี ที่บริเวณพื้นที่ อ.เลาขวัญ อ.ห้วยกระเจา อ.พนมทวน มาจนถึง อ.ท่าม่วง น้ำจำนวนดังกล่าวจะไหลลงสู่แม่น้ำแม่กลองบริเวณ ต.ท่าล้อ อ.ท่าม่วง
       
       หากโครงการดังกล่าวรัฐบาลสามารถทำได้สำเร็จจะทำให้ชาวบ้านใน ต.ท่าล้อ อ.ท่าม่วง เดือดร้อนทั้งหมด 5 หมู่บ้าน ประกอบหมู่ 1 หมู่ 2 หมู่ 3 หมู่ 4 และหมู่ 6 พื้นที่เกษตรกร และที่อยู่อาศัยจะเสียหายรวม 4,600 ไร่ ที่อยู่อาศัยจะได้รับผลกระทบ 400 หลังคาเรือน โดย 40 หลังคาเรือน จะได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากตั้งอยู่ในพื้นที่ของการก่อสร้างโครงการ
       
       “ถ้ารัฐบาลทำอย่างนี้ แน่นอนบางพื้นที่ก็ได้รับผลประโยชน์ บางพื้นที่ก็ไม่ได้รับ ส่วนด้านบนของพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ตนไม่อาจจะทราบได้ แต่จากการสำรวจในพื้นที่ ต.ท่าล้อ และใกล้เคียงพบว่าประชาชนจะได้รับผลกระทบมากกว่าประโยชน์ที่จะได้รับ สรุปโดยง่ายก็คือ ปริมาณน้ำที่จะไหลลงสู่แม่น้ำแม่กลอง จำนวน 400 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง จะทำให้ปริมาณน้ำที่มีอยู่เดิมเพิ่มสูงขึ้น” นายจำลอง กล่าวและว่า
       
       ที่ผ่านมา เรายังไม่ทราบว่าทางราชการจะจัดการบริหารน้ำกันอย่างไร หากโครงการดังกล่าวทำสำเร็จ ถ้าทางราชการบริหารจัดการปริมาณน้ำที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นไม่ดี หรือทำไม่ได้ แน่นอนชาว ต.ท่าล้อ ต้องได้รับความเดือดร้อนอย่างแน่นอน และที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ของรัฐโดยเฉพาะกรมชลประทานไม่เคยมาหาชาวบ้านเพื่อมาชี้แจงให้ชาวบ้านได้รับทราบด้วยตนเองเลย มีแต่ไปชี้แจงตามสื่อทีวี หรือหนังสือพิมพ์เท่านั้น เราไม่ต้องการเดินขบวน หรือปลุกระดม แต่เราต้องการให้เจ้าหน้าที่มาชี้แจงให้ชาวบ้านได้รับทราบข้อเท็จจริง
       
       “ที่ผ่านมาเราเคยไปร่วมประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือ กรมชลประทาน ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง แต่ในวันนั้นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของชลประทานได้ได้พูดชี้แจงอะไรเลย เป็นเพียงแค่ไม้ประดับ แต่คนที่ออกมาชี้แจงกลับเป็นเจ้าหน้าที่ของบริษัทที่รับเหมาทำโครงการ ซึ่งก็คุยกันไม่รู้เรื่อง เพราะเจ้าหน้าที่เหล่านั้นพูดเป็นอย่างเดียว คือ โครงการดังกล่าวได้ศึกษาแล้ว คำนวณแล้ว แล้วก็บอกไม่ได้รับผลกระทบ
       
       เราถามไปว่าหากโครงการสำเร็จระดับน้ำจะสูงขึ้นมาเท่าไหร่ เจ้าหน้าที่ไม่สามารถตอบคำถามของพวกเราได้ ดังนั้น พวกเราจึงต้องการที่จะได้เจรจากับรัฐบาล หรือกรมชลประทานโดยตรง เพราะเรามีความกังวลมาก และที่ผ่านมา หน่วยงานที่รับผิดชอบยังไม่เคยลงพื้นที่มาชี้แจงทำความเข้าใจให้แก่ชาวบ้าน และรับฟังความคิดเห็นของประชาชนที่จะได้รับผลกระทบ รวมทั้งการทำประชาพิจารณ์แต่อย่างใด ดังนั้น วันนี้ผมและชาวบ้านจึงจึงจัดเวทีขึ้นมาเพื่อขอให้ทุกคนได้แสดงความคิดเห็นว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ผลการลงประชามติปรากฏว่า ประชาชนทั้งหมดต่างไม่เห็นด้วยกับโครงการดังกล่าว”






ที่มา http://www2.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9560000083879

**************************************************************

แม่เฒ่าช็อกตายหลังได้ข่าวโครงการแก้น้ำท่วมผ่านที่ดินตัวเอง

พิธีรดน้ำศพ นางทองอยู่ ล่องอย อายุ 79


เมื่อเวลา 14.00 น. เจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ป่วยหมดสติที่บ้านเลข ที่ 115 หมู่ 3 ต.ท่าล้อ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี จึงรุดไปช่วยเหลือ พบนางทองอยู่ ล่องอย อายุ 79 ปี นอนแน่นิ่งหมดสติอยู่ในบ้าน เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงรีบนำตัวส่ง รพ.พหลพลพยุหเสนา ซึ่งแพทย์พยายามช่วยชีวิตจนสุดความสามารถ แต่นางทองอยู่เสียชีวิตในเวลาต่อมา รพ. จึงให้ญาติรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป

ด้าน ด.ต.ไพโรจน์ บุณยานนท์ อายุ 50 ปี น้องชายของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตนได้ไปร่วมประชุมที่สำนักงานชลประทานที่ 13 เขื่อนแม่กลอง อ.ท่าม่วง เพื่อรับฟังข้อมูลโครงการศึกษาความเหมาะสมการบริหารจัดการน้ำพื้นที่แม่น้ำ เจ้าพระยาฝั่งตะวันตก เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม ซึ่งตามโครงการจะมีการสร้างคลองรับน้ำจากแม่น้ำปิง จ.กำแพงเพชร ผ่านนครสวรรค์ อุทัยธานี สุพรรณบุรี เข้ามายัง อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี และผ่านต่อมาที่ อ.พนมทวน เข้ามาในพื้นที่หมู่ 6 และหมู่ 3 ต.ท่าล้อ อ.ท่าม่วง

ด.ต.ไพโรจน์ กล่าวอีกว่า ตนได้นำเรื่องที่ไปประชุมมาเล่าให้ผู้ตายฟังว่าโครงการดังกล่าวจะผ่านที่ดิน ของผู้ตาย กินเนื้อที่ประมาณ 4 ไร่ ประกอบกับบ้านที่ผู้ตายอาศัยอยู่เพิ่งจะสร้างเสร็จด้วยงบประมาณ 6 แสนบาทเศษ รวมหลังเก่าที่สร้างไปก่อนหน้านี้กว่าล้านบาท ซึ่งผู้ตายจะต้องเสียพื้นที่ที่มีทั้งหมดหากโครงการนี้เกิดขึ้นจริง หลังได้ฟังข้อมูลจากตน ผู้ตายก็มีอาการไม่ดี และบอกกับตนว่าขอตัวไปกินยาและกินข้าว เพื่อนอนหลับพักผ่อน ตนจึงกลับบ้านไป กระทั่งมาทราบเรื่องพี่สาวเสียชีวิตในวันนี้ ซึ่งสันนิษฐานว่าอาจจะมีสาเหตุมาจากอาการเครียดจนช็อกเมื่อทราบว่าจะมี โครงการผ่านเข้ามาในพื้นที่ของตน

ด้านนายจำลอง อบอุ่น กำนันตำบลท่าล้อ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ของโครงการ ซึ่งโครงการจะต้องทำให้เสร็จภายใน 420 วัน และจะเสร็จสิ้นโครงการสำรวจภายในเดือนกันยายนนี้ เพื่อระบายน้ำให้ไหลไปลงแม่น้ำแม่กลอง เป็นการแบ่งเบาภาระไม่ให้น้ำไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยามากจนเกินไป เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดน้ำท่วมใหญ่เหมือนที่เกิดขึ้นในปี 2554 แต่ยังไม่มีการเริ่มทำประชาพิจารณ์แต่อย่างใด
ที่มา ttp://www.tddf.or.th/disaster/detail.phpcontentid=0009&postid=0003608&currentpage=21

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Follow Us On