คู่มือประชาชนสำหรับติดต่อราชการฝ่ายทะเบียน
|
- การขอสำเนาทะเบียนบ้าน
- การแจ้งเกิด
- การแจ้งตาย
- การแจ้งย้ายออก
- การแจ้งย้ายเข้า
- การจำหน่ายชื่อและรายการบุคคลออกจากทะเบียนบ้านกรณีตาย
- การแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายการในเอกสารการทะเบียนราษฎร
- การตรวจ คัดและรับรองเอกสารการทะเบียนราษฎรและรายการจากฐานข้อมูล
- การขอมีบัตร
- การขอมีบัตรใหม่
- การขอเปลี่ยนบัตร
- การตรวจ คัดและรับรองสำเนารายการเกี่ยวกับบัตร
- การจดทะเบียนสมรส
- การจดทะเบียนการหย่า
- การจดทะเบียนรับรองบุตร
- การจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรม
- การจดทะเบียนเลิกรับบุตรบุญธรรม
- การบันทึกฐานะแห่งครอบครัว
- การตรวจ คัดและรับรองสำเนาทะเบียนครอบครัว และการรับรองรายการจากฐานข้อมูลทะเบียนครอบครัว
- การออกหนังสือรับรองการใช้คำนำหน้านาม
- การเปลี่ยนชื่อตัว การตั้งและเปลี่ยนชื่อรอง
- การออกหนังสือรับรองการขอเปลี่ยนชื่อตัวของคนต่างด้าว
- การจดทะเบียนตั้งชื่อสกุลหรือขอตั้งชื่อสกุลใหม่
- การออกหนังสือรับรองการขอจดทะเบียนชื่อสกุลของคนต่างด้าว
- การเปลี่ยนชื่อสกุลโดยการร่วมใช้ชื่อสกุล
- การออกหนังสือรับรองเป็นผู้มีสิทธิอนุญาตให้ผู้อื่นร่วมใช้ชื่อสกุล
- การเปลี่ยนชื่อสกุลโดยการสมรสการสิ้นสุดการสมรส และเหตุอื่นๆ
- การขอใบแทนหนังสือสำคัญ กรณีชำรุดหรือสูญหาย
- การคัดและรับรองสำเนารายการในฐานข้อมูลทะเบียนชื่อบุคคล
|
|
|
งานทะเบียนราษฎร |
เป็นงานที่เกี่ยวข้องกับรายการบุคคลเริ่มตั้งแต่เกิดจนถึงตาย เพื่อใช้เป็นหลักฐานในทางกฏหมาย |
|
การขอสำเนาทะเบียนบ้าน
|
บ้าน อาคาร สิ่งปลูกสร้างรวมถึงเรือหรือแพที่จอดประจำอยู่ที่ใดที่หนึ่ง ซึ่งใช้อยู่อาศัยจะต้องขอเลขที่ประจำบ้านและทะเบียนบ้าน ภายใน 15 วัน นับแต่การก่อสร้างแล้วเสร็จ |
|
กรณีมีบ้านเลขที่แล้ว แต่ยังไม่ได้รับสำเนาทะเบียนบ้าน
|
หลักฐาน |
- บัตรประจำตัวของเจ้าบ้านหรือเจ้าของกรรมสิทธิ์
- กรณีมอบหมายให้ผู้อื่นดำเนินการแทน
- บัตรประจำตัวของผู้มอบและผู้รับมอบหมาย
- หนังสือมอบหมาย (ถ้ามี)
- หลักฐานแสดงการเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครอง
|
กรณีสำเนาทะเบียนบ้านสูญหายหรือถูกทำลาย
|
หลักฐาน |
- บัตรประจำตัวของเจ้าบ้าน
- กรณีมอบหมายให้ผู้อื่นดำเนินการแทน
- บัตรประจำตัวของผู้มอบและผู้รับมอบหมาย
- หนังสือมอบหมาย (ถ้ามี)
ค่าธรรมเนียม : ฉบับละ 20 บาท |
กรณีสำเนาทะเบียนบ้านชำรุดในสาระสำคัญ
|
หลักฐาน |
- บัตรประจำตัวของเจ้าบ้าน
- กรณีมอบหมายให้ผู้อื่นดำเนินการแทน
- บัตรประจำตัวของผู้มอบและผู้รับมอบหมาย
- หนังสือมอบหมาย (ถ้ามี)
- สำเนาทะเบียนบ้านที่ชำรุด
|
ค่าธรรมเนียม : ฉบับละ 20 บาท |
|
การแจ้งเกิด
|
เมื่อมีการแจ้งเกิดเจ้าหน้าที่จะออกสูติบัตรหรือใบเกิดให้ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการติดต่อราชการของเด็ก สูติบัตรจะแสดงรายการของเด็ก เช่น ชื่อตัว-ชื่อสกุล สัญชาติ วันเดือนปีเกิด บิดามารดา สูติบัตรเป็นเอกสารสำคัญจึงควรเก็บรักษาเป็นอย่างดี |
|
การแจ้งเกิดกรณีเด็กเกิดในสถานพยาบาลที่ตั้งอยู่ในท้องที่สำนักทะเบียน
|
หลักฐาน |
- บัตรประจำตัวของผู้แจ้ง (บิดา หรือมารดา หรือเจ้าบ้านที่เด็กเกิด)
- กรณีมอบหมายให้ผู้อื่นดำเนินการแทน
- บัตรประจำตัวของผู้มอบและผู้รับมอบหมาย
- หนังสือมอบหมาย (ถ้ามี)
- หนังสือรับรองการเกิดตามแบบพิมพ์ ท.ร. 1/1 (โรงพยาบาลที่เด็กเกิดออกให้)
- บัตรประจำตัวของบิดามารดา (ถ้ามี)
- สำเนาทะเบียนบ้าน กรณีเพิ่มชื่อเข้าทะเบียนบ้านในเขตท้องที่ที่เด็กเกิด
|
ข้อควรทราบ : แจ้งเกิดภายใน 15 วัน นับแต่วันที่เด็กเกิด หากเกินกำหนดมีโทษ ปรับไม่เกิน 1,000 บาท |
|
การแจ้งตาย
|
การแจ้งตายกรณีปกติทั่วไป
|
หลักฐาน |
- บัตรประจำตัวของผู้แจ้ง
- คนตายในบ้านหรือสถานพยาบาลให้เจ้าบ้านเป็นผู้แจ้ง
- คนตายในบ้านที่ไม่มีเจ้าบ้านให้ผู้พบศพเป็นผู้แจ้ง
- คนตายนอกบ้านให้บุคคลที่ไปกับผู้ตายหรือผู้พบศพเป็นผู้แจ้ง
- กรณีมอบหมายให้ผู้อื่นดำเนินการแทน
- บัตรประจำตัวของผู้มอบและผู้รับมอบหมาย
- หนังสือมอบหมาย (ถ้ามี)
- หนังสือรับรองการตายตามแบบ ท.ร. 4/1 กรณีคนตายในสถานพยาบาล
- หลักฐานของผู้ตาย (ถ้ามี)
|
การแจ้งตายโดยมีเหตุอันควรสงสัยว่าตายด้วยโรคติดต่อ หรือตายโดยผิดธรรมชาติ
(อุบัติเหตุ ฆ่าตัวตาย ถูกผู้อื่นฆ่าหรือตายโดยไม่ทราบสาเหตุ) |
หลักฐาน |
- บัตรประจำตัวของผู้แจ้ง
- คนตายในบ้านให้เจ้าบ้านเป็นผู้แจ้ง
- คนตายในบ้านที่ไม่มีเจ้าบ้านให้ผู้พบศพเป็นผู้แจ้ง
- คนตายนอกบ้านให้บุคคลที่ไปกับผู้ตายหรือผู้พบศพเป็นผู้แจ้ง
- กรณีมอบหมายให้ผู้อื่นดำเนินการแทน
- บัตรประจำตัวของผู้มอบและผู้รับมอบหมาย
- หนังสือมอบหมาย (ถ้ามี)
- หลักฐานการรับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือสถาบันนิติเวช หรือหนังสืออนุญาตจากพนักงานผู้มีหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่ออันตรายแล้วแต่กรณี
- หนังสือรับรองการตาย (ถ้ามี)
- หลักฐานของผู้ตาย (ถ้ามี)
|
ข้อควรทราบ : แจ้งตายภายใน 24 ชั่วโมง นับแต่เวลาตายหรือพบศพ หากเกินกำหนดมีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท |
|
การขอเปลี่ยนแปลงการจัดการศพ
|
หลักฐาน |
- บัตรประจำตัวของผู้แจ้ง (เป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ตาย)
- กรณีมอบหมายให้ผู้อื่นดำเนินการแทน
- บัตรประจำตัวของผู้มอบและผู้รับมอบหมาย
- หนังสือมอบหมาย (ถ้ามี)
- มรณบัตร
|
|
การแจ้งย้ายออก
|
การแจ้งย้ายออกกรณีปกติทั่วไป
|
หลักฐาน |
- บัตรประจำตัวของเจ้าบ้าน
- กรณีมอบหมายให้ผู้อื่นดำเนินการแทน
- บัตรประจำตัวของผู้มอบและผู้รับมอบหมาย
- หนังสือมอบหมาย (ถ้ามี)
- สำเนาทะเบียนบ้านที่จะแจ้งย้ายออก
|
ข้อควรทราบ |
กรณีคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองสัญชาติพม่า ลาวและกัมพูชาที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ ถ้าย้ายออกนอกพื้นที่กรุงเทพมหานคร ใช้บัตรประจำตัวหรือแบบรับรองรายการทะเบียนประวัติ และหนังสืออนุญาตออกนอกเขตจังหวัดของสำนักงานศูนย์ดำเนินการเกี่ยวกับผู้อพยพ กระทรวงมหาดไทย |
บุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนบ้านที่อยู่ ใช้บัตรประจำตัวหรือแบบรับรองรายการทะเบียนประวัติ และหนังสืออนุญาตออกนอกเขตจากสำนักงานกิจการความมั่นคงภายใน กรมการปกครอง |
|
การแจ้งย้ายออกและย้ายเข้าในเขตเดียวกัน
|
หลักฐาน |
- บัตรประจำตัวของเจ้าบ้าน และสำเนาทะเบียนบ้านที่จะแจ้งย้ายออก
- บัตรประจำตัวของเจ้าบ้าน และสำเนาทะเบียนบ้านที่จะแจ้งย้ายเข้า
- กรณีมอบหมายให้ผู้อื่นดำเนินการแทน
- บัตรประจำตัวของผู้มอบและผู้รับมอบหมาย
- หนังสือมอบหมาย (ถ้ามี)
|
|
การแจ้งย้ายออกจากทะเบียนบ้านกลางหรือทะเบียนประวัติกลาง
|
ทะเบียนบ้านกลาง คือทะเบียนสำหรับลงรายการบุคคลที่ไม่สามารถมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านตามปกติทั่วไป สาเหตุอาจเกิดจากไม่มีทะเบียนบ้านที่จะแจ้งย้ายเข้า ทำให้ต้องย้ายหรือเพิ่มชื่อบุคคลนั้นไว้ในทะเบียนบ้านกลางหรือทะเบียนประวัติกลาง เนื่องจากทะเบียนบ้านกลางมิใช่ทะเบียนบ้านจึงไม่สามารถใช้อ้างอิงหรือติดต่อราชการต่างๆได้เหมือนทะเบียนบ้าน หากมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านกลางจะต้องติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการแจ้งย้ายที่อยู่ให้ถูกต้อง |
หลักฐาน |
บัตรประจำตัวของผู้แจ้ง หรือหลักฐานที่แสดงว่าผู้แจ้งเป็นบุคคลเดียวกันกับรายการบุคคลที่จะย้ายออก หากเป็นผู้เยาว์ให้บิดา หรือมารดา หรือผู้ปกครองเป็นผู้แจ้งย้ายออก |
|
การแจ้งย้ายออกของบุคคลที่เดินทางไปต่างประเทศ
|
หลักฐาน |
- บัตรประจำตัวของเจ้าบ้าน
- กรณีมอบหมายให้ผู้อื่นดำเนินการแทน
- บัตรประจำตัวของผู้มอบและผู้รับมอบหมาย
- หนังสือมอบหมาย (ถ้ามี)
- สำเนาทะเบียนบ้านที่จะแจ้งย้ายออก
- หลักฐานที่แสดงว่าเดินทางไปต่างประเทศ (ถ้ามี)
|
|
|
การแจ้งย้ายเข้า
|
การแจ้งย้ายเข้ากรณีปกติทั่วไป
|
หลักฐาน |
- บัตรประจำตัวของเจ้าบ้าน
- กรณีมอบหมายให้ผู้อื่นดำเนินการแทน
- บัตรประจำตัวของผู้มอบและผู้รับมอบหมาย
- หนังสือมอบหมาย (ถ้ามี)
- สำเนาทะเบียนบ้านที่จะแจ้งย้ายเข้า
- ใบแจ้งการย้ายที่อยู่ตอนที่ 1, 2 ที่ลงลายมือชื่อเจ้าบ้านผู้ยินยอมให้ย้ายเข้าและผู้แจ้งแล้ว
|
ข้อควรทราบ |
กรณีคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองสัญชาติพม่า ลาวและกัมพูชาที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ ใช้บัตรประจำตัวหรือแบบรับรองรายการทะเบียนประวัติ และหลักฐานการรับรายงานตัวจากสำนักงานศูนย์ดำเนินการเกี่ยวกับผู้อพยพ กระทรวงมหาดไทย |
บุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนย้ายที่อยู่ ใช้บัตรประจำตัวหรือแบบรับรองรายการทะเบียนประวัติ และหลักฐานการรับรายงานตัวจากสำนักงานกิจการความมั่นคงภายในกรมการปกครอง |
|
การแจ้งย้ายกรณีเดินทางกลับจากต่างประเทศ
|
หลักฐาน |
- บัตรประจำตัวของผู้แจ้ง (ผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ)
- กรณีย้ายเข้าในเขตสำนักทะเบียนเดียวกันใช้บัตรประจำตัวของเข้าบ้านและสำเนาทะเบียนบานที่จะแจ้งย้ายเข้า
- กรณีมอบหมายให้ผู้อื่นดำเนินการแทน
- บัตรประจำตัวของผู้มอบและผู้รับมอบหมาย
- หนังสือมอบหมาย (ถ้ามี)
|
หมายเหตุ กรณีแจ้งย้ายไปเข้าทะเบียนบ้านที่อยู่ต่างสำนักทะเบียนจะได้รับแจ้งการย้ายที่อยู่ตอนที่ 1, 2 เพื่อนำไปแจ้งย้ายเข้าตามปกติต่อไป |
|
กรณีย้ายออกแล้วจะย้ายกลับเข้าทะเบียนบ้านเดิมโดยยังไม่ได้ไปแจ้งย้ายเข้าที่อื่น
|
หลักฐาน |
- บัตรประจำตัวของเจ้าบ้าน
- กรณีมอบหมายให้ผู้อื่นดำเนินการแทน
- บัตรประจำตัวของผู้มอบและผู้รับมอบหมาย
- หนังสือมอบหมาย (ถ้ามี)
- สำเนาทะเบียนบ้านที่จะแจ้งย้ายเข้า
- ใบแจ้งการย้ายที่อยู่ตอนที่ 1, 2 ที่ลงลายมือชื่อเจ้าบ้านผู้ยินยอมให้ย้ายเข้าและผู้แจ้งแล้ว
|
|
กรณีย้ายออกแล้วแต่ผู้ย้ายที่อยู่บางรายถึงแก่ความตายก่อนที่จะไปแจ้งย้ายเข้า
|
หลักฐาน |
- บัตรประจำตัวของเจ้าบ้าน
- กรณีมอบหมายให้ผู้อื่นดำเนินการแทน
- บัตรประจำตัวของผู้มอบและผู้รับมอบหมาย
- หนังสือมอบหมาย (ถ้ามี)
- สำเนาทะเบียนบ้านที่จะแจ้งย้ายเข้า
- ใบแจ้งการย้ายที่อยู่ตอนที่ 1, 2 ที่ลงลายมือชื่อเจ้าบ้านผู้ยินยอมให้ย้ายเข้าและผู้แจ้งแล้ว
- มรณบัตรหรือใบรับแจ้งการตายของผู้ตาย
|
|
การแจ้งย้ายที่อยู่ปลายทาง
|
หลักฐาน |
- บัตรประจำตัวของผู้แจ้ง (เจ้าของรายการ) หากเป็นผู้เยาว์ให้บิดา หรือมารดาหรือผู้ปกครองเป็นผู้แจ้ง
- บัตรประจำตัวของเจ้าบ้านที่จะย้ายเข้าพร้อมหนังสือยินยอมให้ย้ายเข้าและสำเนาทะเบียนบ้าน
- กรณีมอบหมายให้ผู้อื่นดำเนินการแทน
- บัตรประจำตัวของผู้มอบและผู้รับมอบหมาย
- หนังสือมอบหมาย (ถ้ามี)
|
ค่าธรรมเนียม : ฉบับละ 20 บาท |
ข้อควรทราบ : การแจ้งย้ายเข้าหรือย้ายออกต้องแจ้งภายใน 15 วัน นับแต่วันที่มีคนย้ายเข้าหรือย้ายออก หากเกินกำหนดมีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท |
|
การจำหน่ายชื่อและรายการบุคคลออกจากทะเบียนบ้านกรณีตาย
|
หลักฐาน |
- บัตรประจำตัวของเจ้าบ้าน
- กรณีมอบหมายให้ผู้อื่นดำเนินการแทน
- บัตรประจำตัวของผู้มอบและผู้รับมอบหมาย
- หนังสือมอบหมาย (ถ้ามี)
- สำเนาทะเบียนบ้านที่มีรายการของผู้ตาย
|
ข้อควรทราบ : หลักฐานการตายที่ออกโดยรัฐบาลของประเทศอื่น ต้องได้รับการแปลและรับรองจากกระทรวงการต่างประเทศ |
|
การแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายการในเอกสารการทะเบียนราษฎร
|
หลักฐาน |
- บัตรประจำตัวของผู้แจ้ง (เจ้าของรายการ) กรณีเป็นผู้เยาว์ให้บิดา มารดา หรือผู้ปกครองเป็นผู้แจ้ง
- กรณีมอบหมายให้ผู้อื่นดำเนินการแทน
- บัตรประจำตัวของผู้มอบและผู้รับมอบหมาย
- หนังสือมอบหมาย (ถ้ามี)
- เอกสารการทะเบียนนราษฎรที่ต้องการแก้ไขเปลี่ยนแปลง
- เอกสารราชการที่ใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงในการขอแก้ไขรายการ
|
|
การตรวจ คัดและรับรองเอกสารการทะเบียนราษฎรและรายการจากฐานข้อมูล
|
- กรณีขอคัดและรับรองจากเอกสารต้นฉบับ ยื่นคำร้องได้ที่สำนักทะเบียนที่จัดทำเอกสารทะเบียนราษฎร
- กรณีขอคัดและรับรองรายการจากฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร ยื่นคำร้องได้ที่ฝ่ายทะเบียน
|
หลักฐาน |
- กรณีเจ้าของรายการมาดำเนินการด้วยตนเอง
- บัตรประจำตัวของผู้ยื่นคำร้อง
- กรณีผู้มีส่วนได้เสียขอคัดรายการของบุคคลอื่น
- บัตรประจำตัวของผู้ยื่นคำร้อง
- เอกสารหลักฐานที่แสดงว่าเป็นผู้มีส่วนได้เสียพร้อมสำเนา
- กรณีเจ้าของรายการหรือผู้มีส่วนได้เสียมอบให้ผู้อื่นมาดำเนินการแทน
- บัตรประจำตัวของผู้มอบและผู้รับมอบอำนาจ
- หนังสือมอบอำนาจ (ติดอากรแสตมป์)
- กรณีทนายความ
- บัตรประจำตัวทนายความ
- หลักฐานการเป็นผู้มีส่วนได้เสีย
- หากไม่สามารถแสดงหลักฐานการเป็นผู้มีส่วนได้เสียได้ให้บันทึกปากคำทนายความตามแบบพิมพ์ ป.ค. 14
|
|
งานทะเบียนบัตรประจำตัวประชาชน
|
คุณสมบัติของผู้ขอมีบัตรประจำตัว
|
- มีสัญชาติไทย
- อายุตั้งแต่ 7 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
- มีชื่นในทะเบียนบ้าน
|
|
การขอมีบัตร
|
กรณีขอมีบัตรเป็นครั้งแรก
|
หลักฐาน |
- สูติบัตรหรือหลักฐานที่ทางราชการออกให้ที่มีรูปถ่าย เช่น ใบสุทธิ หนังสือเดินทาง เป็นต้น
- หลักฐานการเปลี่ยนชื่อตัว - ชื่อสกุล (ถ้ามี)
- กรณีขอมีบัตรเป็นครั้งแรกโดยมีบิดาและมารดาเป็นบุคคลต่างด้าว ใช้หลักฐานใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวของบิดามารดา หากถึงแก่ความตายให้นำใบมรณบัตรของผู้ที่ถึงแก่ความตายไปแสดง
|
ข้อควรทราบ : ยื่นคำขอภายใน 60 วัน นับแต่วันที่อายุครบ 7 ปี บริบูรณ์ เกินกำหนดมีโทษปรับไม่เกิน 100 บาท |
|
กรณีเป็นบุคคลได้รับการเพิ่มชื่อในทะเบียนบ้าน หรือแจ้งเกิดเกินกำหนด
|
หลักฐาน |
- กรณีเพิ่มชื่อในทะเบียนบ้าน ใช้หลักฐานการเพิ่มชื่อหรือเอกสารที่ทางราชการออกให้
- กรณีแจ้งเกิดเกินกำหนดใช้สูติบัตร
- เจ้าบ้านหรือบุคคลผู้น่าเชื่อถือรับรอง
|
ข้อควรทราบ : ยื่นคำขอภายใน 60 วัน นับแต่วันที่เพิ่มชื่อในทะเบียนบ้าน เกินกำหนดมีโทษปรับไม่เกิน 100 บาท |
|
กรณีเป็นบุคคลได้รับการยกเว้น หรือบุคคลซึ่งมีอายุเกิน 70 ปี
|
หลักฐาน |
- หลักฐานที่แสดงว่าเป็นบุคคลซึ่งได้รับการยกเว้นไม่ต้องมีบัตร เช่น หนังสือสุทธิของพระ หรือหนังสือเดินทางกรณีเป็นผู้ที่อยู่ระหว่างศึกษาที่ต่างประเทศ
- กรณีไม่มีหลักฐานแสดงการเป็นผู้ได้รับการยกเว้นไม่ต้องมีบัตร
- หลักฐานอื่นๆ ที่ทางราชการออกให้ (ถ้ามี)
- เจ้าบ้านหรือบุคคลผู้น่าเชื่อถือรับรอง
|
ข้อควรทราบ : ยื่นคำขอภายใน 60 วัน นับแต่วันที่เพิ่มชื่อในทะเบียนบ้าน เกินกำหนดมีโทษปรับไม่เกิน 100 บาท |
|
กรณีเป็นบุคคลซึ่งพ้นสภาพได้รับการยกเว้น
|
หลักฐาน |
หลักฐานที่แสดงว่าเป็นบุคคลซึ่งได้รับการยกเว้นไม่ต้องมีบัตร เช่น หนังสือเดินทางและเอกสารที่แสดงว่าเป็นผู้สำเร็จการศึกษาจากต่างประเทศ หรือหนังสือสำคัญของเรือนจำหรือทัณฑสถาน |
ข้อควรทราบ : ยื่นคำขอภายใน 60 วัน นับแต่วันที่พ้นสภาพได้รับการยกเว้น เกินกำหนดมีโทษปรับไม่เกิน 100 บาท |
|
กรณีเป็นบุคคลซึ่งได้สัญชาติไทย หรือได้รับอนุมัติให้มีสัญชาติไทยหรือได้กลับคืนสัญชาติไทย
|
หลักฐาน |
- กรณีได้สัญชาติไทยโดยการแปลงสัญชาติเป็นไทยหรือได้กลับคืนสัญชาติไทยใช้หนังสือสำคัญการแปลงสัญชาติเป็นไทย หรือหนังสือสำคัญแสดงการได้กลับคืนสัญชาติไทย
- กรณีขอมีบัตรเป็นครั้งแรกโดยมีบิดาและมารดาเป็นบุคคลต่างด้าว ใช้หลักฐานใบสำคัญรประจำตัวคนต่างด้าวของบิดามารดา หากถึงแก่ความตายให้นำมรณบัตรของผู้ที่ถึงแก่ความตายไปแสดง
- หลักฐานอื่นๆ ที่ทางราชการออกให้ (ถ้ามี)
- เจ้าบ้านหรือบุคคลผู้น่าเชื่อถือรับรอง
|
ข้อควรทราบ : ยื่นคำขอภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ได้รับสัญชาติไทย เกินกำหนดมีโทษปรับไม่เกิน 100 บาท |
|
การขอมีบัตรใหม่
|
กรณีบัตรเดิมหมดอายุ
|
หลักฐาน |
- บัตรประจำตัวประชาชนเดิมที่หมดอายุ
|
ข้อควรทราบ : ยื่นคำขอภายใน 60 วัน นับแต่วันที่บัตรเดิมหมดอายุ เกินกำหนดมีโทษปรับไม่เกิน 100 บาท |
|
กรณีบัตรเดิมสูญหายหรือถูกทำลาย
|
หลักฐาน |
- หลักฐานทางราชการที่มีรูปถ่าย เช่น ใบขับขี่ วุฒิการศึกษา หนังสือเดินทางเป็นต้น หากไม่มีให้พาเจ้าบ้านหรือบุคคลที่น่าเชื่อถือมาให้การรับรอง
|
ค่าธรรมเนียม : 20 บาท |
ข้อควรทราบ : ยื่นคำขอภายใน 60 วัน นับแต่วันที่บัตรหายหรือถูกทำลาย เกินกำหนดมีโทษปรับไม่เกิน 100 บาท |
|
การขอเปลี่ยนบัตร
|
กรณีบัตรเดิมชำรุดในสาระสำคัญ
|
หลักฐาน |
- บัตรประจำตัวประชาชนเดิมที่ชำรุด
|
ข้อควรทราบ : ยื่นคำขอภายใน 60 วัน นับแต่วันที่บัตรเดิมชำรุดในสาระสำคัญ เกินกำหนดมีโทษปรับไม่เกิน 100 บาท |
|
กรณีเปลี่ยนชื่อตัว - ชื่อสกุล
|
หลักฐาน |
- บัตรประจำตัวประชาชนเดิม
- หลักฐานการเปลี่ยนชื่อตัว - ชื่อสกุลแล้วแต่กรณี
|
ค่าธรรมเนียม : 20 บาท |
ข้อควรทราบ : ยื่นคำขอภายใน 60 วัน นับแต่วันที่แก้ไขรายการในทะเบียนบ้าน เกินกำหนดมีโทษปรับไม่เกิน 100 บาท |
|
กรณีเปลี่ยนที่อยู่ใหม่ตามหลักฐานทะเบียนบ้านและบัตรเดิมยังไม่หมดอายุ
|
หลักฐาน |
|
ค่าธรรมเนียม : 20 บาท |
|
กรณีเปลี่ยนคำนำหน้านาม
|
หลักฐาน |
- บัตรประจำตัวประชาชนเดิม
- หลักฐานแสดงการเปลี่ยนคำนำหน้านาม เช่น ทะเบียนสมรส ฯลฯ
|
|
การขอมีบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย หรือบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน
|
คุณสมบัติของผู้ขอมีบัตร |
- อายุตั้งแต่ 5 ปีบริบูรณ์
- มีชื่อในทะเบียนบ้านหรือทะเบียนประวัติ
|
หลักฐาน |
- สำเนาทะเบียนบ้านหรือทะเบียนประวัติ
- บัตรประจำตัวเดิม (กรณีบัตรหมดอายุ ชำรุด หรือขอเปลี่ยนบัตร)
- เอกสารราชการอื่น เช่น ใบสำคัญที่อยู่ ใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว ใบตอบรับการสำรวจเพื่อจัดทำทะเบียนสำหรับบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน
|
ค่าธรรมเนียม : 60 บาท ยกเว้นการทำบัตรครั้งแรกของผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี |
ข้อควรทราบ : |
ยื่นคำขอภายใน 60 วัน นับแต่วันที่อายุครบ 5 ปีบริบูรณ์ หรือเพิ่มชื่อในทะเบียนบ้านหรือทะเบียนประวัติ หรือบัตรเติมหมดอายุ สูญหาย ถูกทำลาย ชำรุดหรือวันที่มีการแก้ไขรายการชื่อตัว-ชื่อสกุล วันเดือนปีเกิดในเอกสารทะเบียนราษฎร หากเกินกำหนดมีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท |
|
การตรวจ คัดและรับรองสำเนารายการเกี่ยวกับบัตร
|
หลักฐาน |
- กรณีดำเนินการด้วยตนเอง ใช้บัตรประจำตัวของเจ้าของรายการบัตร
- กรณีมอบอำนาจ
- บัตรประจำตัวผู้มอบและผู้รับมอบอำนาจ
- หนังสือมอบอำนาจ (ติดอากรแสตมป์)
- กรณีผู้มีส่วนได้เสียโดยตรงขอคัดรายการบัตรของบุคคลอื่น
- บัตรประจำตัวของผู้ยื่นคำขอ
- เอกสารหลักฐานที่แสดงได้ว่าเป็นผู้มีส่วนได้เสียโดยตรงกับรายการบัตรที่จะขอตรวจ คัดและรับรอง
|
ค่าธรรมเนียม : ฉบับละ 10 บาท |
|
งานทะเบียนครอบครัว
|
การจดทะเบียนสมรส
|
การสมรสจะมีผลสมบูรณ์ตามกฎหมาย คู่สมรสต้องจดทะเบียนสมรสต่อนายทะเบียน |
คุณสมบัติของผู้จดทะเบียนสมรส |
- ชาย-หญิงมีอายุไม่ต่ำกว่า 17 ปี บริบูรณ์
- ไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือไร้ความสามารถ
- ไม่เป็นญาติสืบสายโลหิตโดยตรงขึ้นไปหรือลงมา ไม่เป็นพี่น้องร่วมบิดามารดาหรือร่วมแต่บิดาหรือมารดา
- ผู้รับบุตรบุญธรรมจะสมรสกับบุตรบุญธรรมไม่ได้
- ไม่เป็นคู่สมรสกับบุคคลอื่น
- หญิงหม้ายจะสมรสใหม่ได้ก็ต่อเมื่อการสมรสครั้งก่อนสิ้นสุดไปแล้วเป็นเวลา ไม่น้อยกว่า 310 วัน เว้นแต่
- คลอดบัตรแล้วในระหว่างนั้น
- สมรสกับคู่สมรสเดิม
- มีใบรับรองแพทย์ว่าไม่ได้ตั้งครรภ์
- ศาลมีคำสั่งให้สมรสได้
|
หลักฐาน |
- บัตรประจำตัวผู้ร้อง
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- กรณีผู้ร้องยังไม่บรรลุนิติภาวะ (20 ปีบริบูรณ์) บิดา มารดา ผู้ใช้อำนาจปกครองต้องให้ความยินยอมด้วยตนเอง หากไม่สามารถมาด้วยตนเองได้ให้ใช้หนังสือให้ความยินยอม
- กรณีผู้ร้องเคยจดทะเบียนสมรสมาก่อน ให้ใช้หลักฐานการหย่า เช่น ใบหย่า
- กรณีคู่สมรสตาย ให้ใช้หลักฐานการตาย เช่น มรณบัตร
- กรณีมีคำพิพากษาหรือคำสั่งศาล ต้องใช้คำพิพากษาหรือคำสั่งศาลที่ให้จดทะเบียน
- พยานอย่างน้อย 2 คน
|
|
การจดทะเบียนหย่า
|
หลักฐาน |
- บัตรประจำตัวของผู้ร้อง
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- หลักฐานการสมรส
- หนังสือสัญญาหย่าหรือข้อตกลงการหย่าที่มีพยานลงลายมือชื่ออย่างน้อย 2 คน
- กรณีจดทะเบียนการหย่าตามคำพิพากษาศาสล ต้องใช้คำพิพากษาถึงที่สุดและคำรับรองว่าถูกต้อง
- หลักฐานการเปลี่ยนชื่อตัว - ชื่อสกุล (ถ้ามี)
- พยานอย่างน้อย 2 คน
|
|
การจดทะเบียนรับรองบุตร
|
หลักฐาน |
- บัตรประจำตัวผู้ร้อง
- สำเนาทะเบียนบ้าน สูติบัตร หลักฐานการเปลี่ยนชื่อตัว - ชื่อสกุล (ถ้ามี)
- เด็กและมารดาเด็กมาให้ความยินยอมด้วยตนเอง นายทะเบียนจะมีหนังสือสอบถามไปยังเด็กและมารดาว่ายินยอมหรือไม่
- กรณีเด็กและหรือมารดาเด็กไม่ได้มาให้ความยินยอมด้วยจนเอง นายทะเบียนจะมีหนังสือสอบถามไปยังเด็กและมารดาว่ายินยอมหรือไม่
- กรณีมีคำพิพากษาหรือคำสั่งศาล ต้องใช้คำพิพากษาหรือคำสั่งศาลที่ให้จดทะเบียน
- พยานอย่างน้อย 2 คน
|
การจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรม
|
คุณสมบัติของผู้จดทะเบียน |
- ผู้จะขอรับบุตรบุญธรรมต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 25 ปี และต้องมีอายุมากกว่าผู้จะเป็นบุตรบุญธรรมอย่างน้อย 5 ปี
- ผู้จะเป็นบุตรบุญธรรมที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปี ผู้นั้นต้องให้ความยินยอมด้วย
- ผู้ที่จะขอรับบุตรบุญธรรมและผู้ที่จะเป็นบุตรบุญธรรมที่มีคู่สมรสต้องได้รับความยินยอมจากคู่สมรสด้วย
- กรณีผู้จะเป็นบุตรบุญธรรมเป็นผู้เยาว์ต้องได้รับอนุมัติให้จดทะเบียนจากคณะกรรมการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมเสียก่อน
|
หลักฐาน |
- บัตรประจำตัวของผู้ร้อง
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- กรณีบุตรบุญธรรมเป็นผู้เยาว์ ต้องใช้หนังสืออนุมัติให้รับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมจากคณะกรรมการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม (กรุงเทพมหานครหรือชาวต่างประเทศที่มีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทยยื่นเรื่องขอหนังสืออนุมัติฯ ได้ที่ ศูนย์อำนวยการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ต่างจังหวัดยื่นเรื่องได้ที่ ที่ว่าการอำเภอหรือสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด)
- กรณีบุตรบุญธรรมหรือผู้รับบุตรบุญธรรมมีคู่สมรส คู่สมรสต้องให้ความยินยอม หากไม่สามารถมาให้ความยินยอมด้วยตนเองให้ใช้หนังสือให้ความยินยอม
- กรณีมีการอุทธรณ์คำสั่งของคณะกรรมการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม ต้องใช้คำพิพากษาหรือคำสั่งศาล
- พยานอย่างน้อย 2 คน
|
|
การจดทะเบียนเลิกรับบุตรบุญธรรม
|
หลักฐาน |
- บัตรประจำตัวของผู้ร้อง
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- สำเนาทะเบียนรับบุตรบุญธรรม
- กรณีบุตรบุญธรรมเป็นผู้เยาว์ ต้องมีหนังสือรับรองว่าได้เข้าสู่กระบวนการเยียวยาจากกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ และต้องได้รับความยินยอมจากผู้ที่ให้ความยินยอมในขณะจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรม
- กรณีมีคำพิพากษาหรือคำสั่งศาล ต้องใช้คำพิพากษาหรือคำสั่งศาล
- พยานอย่างน้อย 2 คน
|
|
การบันทึกฐานะแห่งครอบครัว
|
หลักฐาน |
- บัตรประจำตัวของผู้ร้อง
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- หนังสือสำคัญแสดงการจดทะเบียนครอบครัว เช่น สมรส หย่า รับบุตรบุญธรรม ฯลฯ หรือเอกสารอันเป็นหลักฐานแห่งการนั้นที่ทำขึ้นในต่างประเทศ ซึ่งได้รับการแปลเป็นภาษาไทยและรับรองจากกระทรวงการต่างประเทศ หรือสถานฑูตสถานกงศุลของไทย หรือสถานฑูตสถานกงศุลของประเทศนั้นๆ แล้ว
- พยานอย่างน้อย 2 คน
|
ข้อควรทราบ : |
ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้งสองฝายมีสัญชาติไทยและได้มีการจดทะเบียนครอบครัวตามกฎหมายต่างประเทศ |
|
การตรวจ คัดและรับรองสำเนาทะเบียนครอบครัว และการรับรองรายการจากฐานข้อมูลทะเบียนครอบครัว
|
กรณีขอคัดและรับรองจากเอกสารต้นฉบับ |
ยื่นคำร้องได้ที่ : สำนักทะเบียนที่จัดทำเอกสาร |
กรณีขอคัดและรับรองรายการจากฐานข้อมูล |
ยื่นคำร้องได้ที่ : ฝ่ายทะเบียน |
หลักฐาน |
- บัตรประจำตัวของเจ้าของรายการหรือผู้มีส่วนได้เสีย
- หลักฐานการแสดงความเป็นผู้มีส่วนได้เสีย
- กรณีมอบอำนาจ
- บัตรประจำตัวของผู้มอบและผู้รับมอบอำนาจ
- หนังสือมอบอำนาจ (ติดอากรแสตมป์)
|
|
การออกหนังสือรับรองการใช้คำนำหน้านามหญิง
|
หลักฐาน |
- บัตรประจำตัวของผู้ร้อง
- หลักฐานการสมรส หรือการสิ้นสุดการสมรส หรือการบันทึกฐานะแห่งครอบครัว
|
|
|
งานทะเบียนชื่อบุคคล
|
การเปลี่ยนชื่อตัว การตั้งและเปลี่ยนชื่อรอง
|
หลักเกณฑ์ |
- ต้องไม่พ้องหรือมุ่งหมายให้คล้ายกับพระปรมาภิไธย พระนามของพระราชินีหรือราชทินนาม
- ต้องไม่มีคำหรือความหมายหยาบคาย
- ต้องไม่มีเจตนาทุจริต
- ผู้ที่ได้รับหรือเคยได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ แต่ได้ออกจากบรรดาศักดิ์นั้นโดยมิได้ถูกถอดถอน สามารถใช้ราชทินนามตามบรรดาศักดิ์นั้นเป็นชื่อตัวหรือชื่อรองก็ได้
- ชื่อรองที่จะขอตั้งต้องไม่พ้องกับชื่อสกุลของบุคคลอื่น ยกเว้นการใช้ชื่อสกุลของคู่สมรสเป็นชื่อรอง
- กรณีบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายมีสิทธิ์ใช้ชื่อสกุลเดิมของมารดาหรือบิดาเป็นชื่อรองได้
|
หลักฐาน |
- บัตรประจำตัวผู้ยื่นคำขอ
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- เอกสารอื่น (ถ้ามี) เช่น สูติบัตร ทะเบียนรับบุตรบุญธรรม ทะเบียนการหย่า ซึ่งระบุอำนาจการปกครองบุตรฯ
|
ค่าธรรมเนียม : ฉบับละ 50 บาท ยกเว้นการตั้งชื่อรองครั้งแรกไม่เสียค่าธรรมเนียม |
|
การออกหนังสือรับรองการขอเปลี่ยนชื่อตัวของคนต่างด้าว เพื่อประกอบการขอแปลงสัญชาติหรือขอกลับคืนสัญชาติไทย
|
หลักเกณฑ์ |
- ใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวหรือหลักฐานอื่นที่ทางราชการออกให้
- หลักฐานคำขอแปลงสัญชาติหรือขอกลับคืนสัญชาติไทยและเหตุผล
- สำเนาทะเบียนบ้าน (ถ้ามี)
|
|
การจดทะเบียนตั้งชื่อสกุลหรือขอตั้งชื่อสกุลใหม่
|
หลักเกณฑ์ |
- ต้องไม่พ้องหรือมุ่งหมายให้คล้ายกับพระปรมาภิไธย พระนามของพระราชชินี
- ต้องไม่พ้องหรือมุ่งหมายให้คล้ายกับราชทินนาม เว้นแต่ราชทินนามของตน ของบุพการีหรือของผู้สืบสันดาน
- ต้องไม่ซ้ำกับชื่อสกุลที่ได้รับพระราชทานจากพระมหากษัตริย์หรือชื่อสกุลที่ได้จดทะเบียนไว้แล้ว หรือชื่อสกุลในฐานข้อมูลทะเบียนขื่อบุคคลและฐานข้อมูลการทะเบียนราษฎร
- ต้องไม่มีคำหรือความหมายหยาบคาย
- มีพยัญชนะไม่เกินสอบพยัญชนะ เว้นแต่กรณีใช้ราชทินนามเป็นชื่อสกุล
- ผู้ที่ไม่ได้รับพระราชทานชื่อสกุล ห้ามใช้คำว่า "ณ" นำหน้าชื่อสกุล
- ห้ามเอานามพระมหานคร และศัพท์ที่ใช้เป็นพระบรมนามาภิไธยมาใช้เป็นนามสกุล
- ห้ามเพิ่มเครื่องหมายนามสกุล เว้นแต่เป็นราชตระกูล
|
หลักฐาน |
- บัตรประจำตัวของผู้ยื่นคำขอ
- สำเนาทะเบียนบ้าน
|
ค่าธรรมเนียม : ฉบับละ 100 บาท |
|
การออกหนังสือรับรองการขอจดทะเบียนชื่อสกุลของคนต่างด้าว เพื่อประกอบการขอแปลงสัญชาติหรือขอกลับคืนสัญชาติไทย
|
หลักเกณฑ์ |
- ต้องไม่พ้องหรือมุ่งหมายให้คล้ายกับพระปรมาภิไธย พระนามของพระราชินี
- ต้องไม่พ้องหรือมุ่งหมายให้คล้ายกับราชทินนาม เว้นแตราชทินนามของตนของบุพการีหรือของผู้สืบสันดาน
- ต้องไม่ซ้ำกับชื่อสกุลที่ได้รับพระราชทานจากพระมหากษัตริย์หรือชื่อสกุลที่ได้จดทะเบียนไว้แล้ว หรือชื่อสกุลในฐานข้อมูลทะเบียนชื่อบุคคลและฐานข้อมูลการทะเบียนราษฎร
- ต้องไม่มีคำหรือความหมายหยายคาย
- มีพยัญชนะไม่เกินสอบพยัญชนะ เว้นแต่กรณีใช้ราชทินนามเป็นชื่อสกุล
- ผู้ที่ไม่ได้รับพระราชทานชื่อสกุล ห้ามใช้คำว่า "ณ" นำหน้าชื่อสกุล
- ห้ามเอานามพระมหานครและศัพท์ที่ใช้เป็นพระบรมนามาภิไธยมาใช้เป็นนามสกุล
- ห้ามเพิ่มเครื่องหมายนามสกุล เว้นแต่เป็นราชตระกูล
|
หลักฐาน |
- ใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวหรือหลักฐานอื่นที่ทางราชการออกให้
- หลักฐานคำขอแปลงสัญชาติหรือขอกลับคืนสัญชาติไทยและเหตุผล
- สำเนาทะเบียนบ้าน (ถ้ามี)
|
|
การเปลี่ยนชื่อสกุลโดยการร่วมใช้ชื่อสกุล
|
หลักเกณฑ์ |
- ผู้จดทะเบียนตั้งชื่อสกุลจะอนุญาตให้ผู้มีสัญชาติไทยผู้ใดร่วมใช้ชื่อสกุลของตนเองก็ได้
- กรณีผู้จดทะเบียนตั้งชื่อสกุลเสียชีวิตแล้ว หรือศาลมีคำสั่งถึงที่สุดว่าเป็นผู้สาบสูญ ผู้สืบสันดานของผู้จดทะเบียนตั้งชื่อสกุลในลำดับใกล้ชิดที่สุดซึ่งยังมีชีวิตอยู่และใช้ชื่อสกุลนั้น มีสิทธิอนุญาตให้ผู้มีสัญชาติไทยร่วมใช้ชื่อสกุลได้
|
ขั้นตอนที่ 1 เจ้าของชื่อสกุลหรือผู้มีสิทธิอนุญาตให้ร่วมใช้ชื่อสกุล |
หลักฐาน |
- บัตรประจำตัวของผู้ยื่นคำขอ
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- กรณีเป็นเจ้าของชื่อสกุล ใช้หนังสือสำคัญแสดงการจดทะเบียนชื่อสกุลตามแบบ ช.2 หรือ
|
กรณีเป็นผู้มีสิทธิอนุญาตให้ร่วมใช้ชื่อสกุล ใช้หนังสือรับรองการเป็นผู้มีสิทธิอนุญาตให้ผู้อื่นร่วมใช้ชื่อสกุลตามแบบ ช.7 |
|
ขั้นตอนที่ 2 ผู้ขอร่วมใช้ชื่อสกุล |
หลักฐาน |
- บัตรประจำตัวของผู้ยื่นคำขอ
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- หนังสืออนุญาตให้ร่วมใช้ชื่อสกุลตามแบ ช.6
|
ค่าธรรมเนียม : ฉบับละ 100 บาท |
|
การออกหนังสือรับรองเป็นผู้มีสิทธิอนุญาตให้ผู้อื่นร่วมใช้ชื่อสกุล
|
หลักฐาน |
- บัตรประจำตัวของผู้ยื่นคำขอ (ผู้สืบสันดานของผู้จดทะเบียนตั้งชื่อสกุลในลำดับที่ใกล้ชิดที่สุดซึ่งยังมีชีวิตอยู่และใช้ชื่อสกุลนั้น)
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- หนังสือสำคัญแสดงการจดทะเบียนชื่อสกุลตามแบบ ช.2 ของเจ้าของชื่อสกุล
- หลักฐานทางราชการที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นผู้มีสิทธิอนุญาตให้ผู้อื่นร่วมใช้ชื่อสกุลได้ เช่น สูติบัตร ทะเบียนสมรส ทะเบียนรับรองบุตร คำพิพากษาถึงที่สุดว่าเป็นบุตรฯ
|
|
การเปลี่ยนชื่อสกุลโดยการสมรส การสิ้นสุดการสมรสการสมรส และเหตุอื่นๆ
|
หลักฐาน |
- บัตรประจำตัวของผู้ยื่นคำขอ
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- บันทึกข้อตกลงการใช้ชื่อสกุลกรณีคู่สมรสประสงค์จะใช้ชื่อสกุลของอีกฝ่ายหนึ่งหรือหลักฐานการสิ้นสุดการสมรส หรือหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำเนาทะเบียนรับบุตรบุญธรรม สำเนาทะเบียนรับรองบุตร ฯลฯ
|
ค่าธรรมเนียม |
- การเปลี่ยนชื่อสกุลครั้งแรกเมื่อจดทะเบียนสมรส ไม่เสียค่าธรรมเนียม
- การเปลี่ยนชื่อสกุลเพราะการสมรสสิ้นสุด ไม่เสียค่าธรรมเนียม
- การเปลี่ยนชื่อสกุลภายหลังการจดทะเบียนสมรสครั้้งต่อๆไป ฉบับละ 50 บาท
- การเปลี่ยนชื่อสกุลเพราะเหตุอื่นๆ ฉบับละ 100 บาท
|
|
การขอใบแทนหนังสือสำคัญ กรณีชำรุดหรือสูญหาย
|
หนังสือสำคัญที่จะขอให้ออกใบแทน ได้แก่ หนังสือสำคัญแสดงการเปลี่ยนชื่อตัวการตั้งหรือเปลี่ยนชื่อรอง (ช.3) หนังสือสำคัญแสดงการจดทะเบียนชื่อสกุล (ช.2) หนังสือสำคัญแสดงการร่วมใช้ชื่อสกุล (ช.4) หนังสือสำคัญแสดงการจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อสกุล (ช.5) |
หลักฐาน |
- บัตรประจำตัวของผู้ยื่นคำขอ
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- หลักฐานการแจ้งความเอกสารสูญหาย กรณีหนังสือสำคัญสูญหาย
- หนังสือสำคัญที่ชำรุด กรณีหนังสือสำคัญชำรุด
|
ค่าธรรมเนียม : ฉบับละ 25 บาท |
|
การคัดและรับรองสำเนารายการในฐานข้อมูลทะเบียนชื่อบุคคล
|
หลักฐาน |
- บัตรประจำตัวของเจ้าของรายการหรือผู้มีส่วนได้เสีย
- หลักฐานการเป็นผู้มีส่วนได้เสียกับรายการที่จะขอคัดและรับรอง
- กรณีมอบอำนาจ
- บัตรประจำตัวของผู้มอบและผู้รับมอบอำนาจ
- หนังสือมอบอำนาจ (ติดอากรแสตมป์)
|
ค่าธรรมเนียม : ฉบับละ 10 บาท |
อ้างอิงจาก คู่มือประชาชน สำหรับติดต่อราชการ ณ ศูนย์บริการกรุงเทพมหานคร (Bangkok Service Center) สำนักงานปกครองและทะเบียน สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น