ค้นหาบล็อกนี้

วันจันทร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2560

> อย่าหวังว่าใครๆก็ชอบคุณ

1. อย่าหวังว่าใครๆก็ชอบคุณ เพราะมันเป็นไปไม่ได้ บางครั้งคุณก็ยังรู้สึกหมั่นใส้ตัวเองไม่ใช่เหรอ? เอาเป็นว่าคนส่วนมากชอบคุณแค่นี้ก็พอแล้วล่ะ
2. เลิกใช้คำน้ำหน้าประโยคว่า “ฉัน” “ชั้น” บ้างก็ดี เพราะคำเหล่านี้ผสมอีโก้ไว้เยอะเลย ใช้คำว่า “เรา” “พวกเรา”แทนจะดีกว่าไม่น้อย
3. อย่ายืมเงินเพื่อน
4. อย่ายัดเยียดให้แขกดูอัลบั้มภาพครอบครัวของคุณ
5. ยืนหยัดพูดความดีของคนอื่น ไม่ต้องกลัวว่าคำดีเหล่านี้จะไม่ไปถึงหูคนที่คุณพูดถึง มันก็เหมือนคำนินทานั่นแหละ
6. หากมีใครกำลังนินทาคนอื่นให้คุณฟัง เตือนได้จงเตือน เตือนไม่ได้ให้ยิ้มก็พอ อย่าได้ผสมโรง
7. อย่าได้เอาแต่พูดความเก่าเล่าความหลังสารธารชีวิตของตนเองให้คนอื่นฟัง
8. เคารพคนที่ไม่ชอบคุณ
9. รูปโฉมไม่ใช่ส่วนที่ทำให้คนอื่นรังเกียจ หากรูปร่างหน้าตาไม่ดี ก็จงสร้างผลงานให้ประจักษ์แก่คนรอบข้าง หากไม่มีผลงานก็จงสร้างรอยยิ้มให้คนรอบข้าง
10. ตำหนิตนเองให้คนอื่นฟังเรียกว่าถ่อมตน ชื่นชมตนเองให้คนอื่นฟังเรียกว่าโอ้อวด
11. บางครั้ง ต่อให้รู้ก็ต้องพูด เช่น “แหวนของเธอสวยจัง แพงไหมจ๊ะ?” บางครั้ง ต่อให้อยากรู้ก็อย่าได้ถาม เช่น “เธออายุเท่าไหร่แล้ว แก่กว่าเราหรือเปล่า?”
12. พูดมากจะเสียการ โดยเฉพาะในที่ปะชุมชน นิ่งๆเข้าไว้ จะดีไม่น้อยทีเดียว
13. เปลี่ยนคำว่า “ไม่” เป็นคำว่า “มันอาจต้องใช้เวลา” “ผมจะพยายาม” “หนูไม่แน่ใจ” “ถ้าผมพิจารณาเสร็จ ผมจะโทรไปหาคุณนะ”
และที่สำคัญ คุณก็ต้องไม่ทำตัวเป็นที่สังคมรังเกียจ คุณอยากให้คนอื่นรักคุณ คุณก็ต้องรักตัวเองให้เป็นด้วย
นุสนธิ์บุคส์

ขอบคุณที่มา :  https://www.facebook.com/NusonBooks
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.facebook.com/NusonBooks

> ไอเดียธุรกิจทำให้กลายเป็นเศรษฐี


10 ไอเดียธุรกิจทำให้กลายเป็นเศรษฐี

ไอเดียธุรกิจ ที่ดีที่สุดที่จะทำเงินคือการเริ่มต้นธุรกิจของคุณเอง แต่วันนี้ความคิดนั้นยังเป็นแค่ความคิดที่เขียนติดไว้บนผนัง
คุณยังต้องแทบจะร้องไห้ทุกครั้งที่เห็นสลิปเงินเดือนของคุณอยู่หรือไม่? เมื่อคุณพบกับคนที่ฉลาดที่เปลี่ยนความคิดโง่ๆมาทำให้เกิดรายได้มหาศาล  เช่น  แว่นตาสุนัข หรือ ผู้ชายที่แต่งงานแล้วสร้างเว็ปไซด์สำหรับคนที่แต่งงานแล้ว  และเชิญคุณพบกับ 10 อันดับไอเดียธุรกิจ แปลกๆที่ทำให้กลายเป็นเศรษฐีขึ้นมาได้

อันดับ 10 บริษัท ที่สร้างรายได้มหาศาลจากการขายแว่นตาสำหรับสุนัข
แว่นตาสำหรับสุนัข? ไอเดียธุรกิจฟังดูงี่เง่าไปหรือเปล่า? แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องตลก หากมีใครสักคนคิดริเริ่มที่จะผลิตอย่างจริงจังและเปลี่ยนไปเป็นธุรกิจเงินล้าน จากการรายงานข่าวของ CNN ธุรกิจนี้ได้รับความสนใจ ทั้งในโลกของผู้หญิง ผู้คนทั่วไป รายการ Regis and Kelly หรือ National Geographic and Animal Planet จากเริ่มต้นด้วยการขายแว่นตา ตอนนี้พวกเขามีการขยายตัวในธุรกิจ ทั้งยังเป็นผู้นำของอุปกรณ์อื่น ๆ สำหรับสัตว์ ซึ่งรวมถึงกระเป๋าสะพายหลัง, แจ็คเก็ต, เสื้อยืด, หมวก, และของเล่น

อันดับ 9 ผู้ชายที่แต่งงานแล้วสร้างเว็บไซต์สำหรับคนที่แต่งงานแล้ว
แอชลีย์เมดิสันดอทคอม เป็นเว็บไซต์ที่ออกเดทด้วยความแตกต่างคือรับเฉพาะคนที่แต่งงานแล้วหรือใครก็ตามที่อยากจะเป็นคนที่แต่งงานแล้ว สโลแกนของเว็บไซต์คือ “ชีวิตสั้น มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาว”  Noel Biderman ผู้ก่อตั้งเว็ปไซด์นี้ เดิมเป็นทนายความ เขาอยากจะให้ผู้ชายที่แต่งงานแล้วมีความสุข แม้ว่าสิ่งที่เขาทำอาจถูกมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง (จากสถิติ : การนอกใจเป็นสิ่งที่ไม่ดี) ข้อเท็จจริงที่เว็บไซต์ที่อ้างว่าสมาชิก 3.2 ล้านคน แสดงให้เห็นว่ายังทำในสิ่งที่ถูกต้อง

อันดับ 8 ผู้ชายคนหนึ่งที่สร้างธุรกิจเงินล้าน poop-scooping
Matthew Osborn ผู้ที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดในธุรกิจ poop-scooping คนที่สร้าง Pooper-Scooper.com  เขาไม่เคยรู้เลยว่าธุรกิจนี้วันหนึ่งจะทำให้เขาเป็นเศรษฐี  ออสบอร์ได้ก่อตั้งไว้ตั้งแต่ในปี 1987 เมื่อเขาเปิดผู้ดูแลสัตว์เลี้ยง ในโคลัมบัส, โอไฮโอ ในเวลานั้นออสบอร์เป็นคนที่ทำงานสองงานเต็มเวลา และทำเงินน้อยกว่า 6$ ต่อชั่วโมง  เขามีภรรยา มีลูกสาวและลูกชาย ด้วยเหตุนี้เขาจึงอยากหารายได้พิเศษ  เขารู้ว่ามีสุนัขอยู่ประมาณ 100,000ตัว ในระยะ 15 ไมล์จากบ้านของเขา ธุรกิจของเขาค่อยๆดำเนินไปอย่างช้าๆ ถึงแม้ว่าจะเป็นงานที่ต้องสกปรก ออสบอร์บอกว่าเขาสนุกที่เห็นลูกค้าพึงพอใจ และการทำงานนอกบ้านที่เดียวกับสวนหลังบ้านเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในในรัฐโอไฮโอ ในที่สุดออสบอร์ก็จ้างพนักงาน 7 คน และเป็นเจ้าของรถบรรทุก 6 คัน เพื่อให้บริการลูกค้าประจำประมาณ 700 คน ในขณะที่ออสบอร์อาจจะมีการวางแผนพื้นที่สำหรับ poop-scooping  พื้นที่สีแดง สำหรับบอสเวลล์ที่จะขยายธุรกิจไปในอนาคต  ซึ่งบอสเวลล์เป็นเจ้าของ the Texas-based Pet Butler  ปัจจุบัน ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยง คือผู้ที่ให้บริการกำจัดของเสียของสัตว์เลี้ยงที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และดูแลลูกค้ากว่า 3,000 ราย

อันดับ 7 เด็กวัยรุ่นที่ทำยอดขายแยมเป็นล้านจากสูตรคุณยายของเขา
ในขณะที่ผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในการสร้างรายได้ พวกเขาสร้างเว็บไซต์ยอดนิยม แต่เฟรเซอร์โดเฮอร์ตี้สร้างอาณาจักรของเขาโดยใช้วิธีการแบบดั้งเดิม เฟรเซอร์เริ่มทำแยมเมื่ออายุ 14 ปี จากสูตรคุณยายของเขาในห้องครัวที่สกอตแลนด์ของพ่อแม่เขา และออกจากโรงเรียนตอนอายุ 16 ปี ทำงานกับแยมธุรกิจ Superjam ของเขาอย่างจริงจัง Superjam ขายได้ประมาณ 500,000 ขวดในหนึ่งปี ซึ่งขณะนี้มีประมาณร้อยละ 10 ของตลาดแยมในสหราชอาณาจักร สัดส่วนการถือหุ้นของโดเฮอร์ตี้ในขณะนี้มีมูลค่า 1-2000000 $

อันดับ 6 ผู้ชายคนหนึ่งกลายเป็นเศรษฐีจากการผลิตพลาสติกสลดหดหู่
ใครจะไปคิดว่าจะมีตลาดสำหรับพสาสติกหดหู่ปลอม?? ใช่แล้วมันมี ! Ken Ahroni รู้สึกผิดหวังทุกปีเมื่อมีแค่คนสองคนเท่านั้นที่สมดังคำปรารถนาในวันขอบคุณพระเจ้า  ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะสร้าง LuckyBreak หรือสิ่งที่หยุดความโชคดี บริษัทจะสร้างสิ่งสลดหดหู่เทียมด้วยเสียงและความรู้สึกของจริงที่สลดหดหู่ของไก่งวงอบแห้ง  ขณะนี้ บริษัท ฯ ทำให้สลดหดหู่ใจ 30,000 ครั้งต่อวัน ขายงานที่ออกแบบเอง,มีตราประทับหน่วยงานสำหรับส่วนบุคคล, การใช้งานขององค์กรและการส่งเสริมการขาย ทำให้มียอดขายของมีกว่า 2.5 ล้านดอลลาร์ต่อปี

อันดับ 5 แม่บ้านที่คิดค้นหมอนไมโครเวฟ
Kim Levine ประดิษฐ์คิดค้น Wuvit ถุงเล็ก ๆ ที่มาในรูปแบบที่หลากหลายและให้ความผ่อนคลายด้วยความร้อนทั่วถึงแบบพุ่งทะลุทะลวง คิมตระหนักดีว่าถ้าเธอใส่ข้าวโพดบางส่วนในผ้าเย็บมันเข้าด้วยกันและแล้วใส่ในไมโครเวฟ หมอนอบอุ่นผ่อนคลายจะถูกสร้างขึ้น เธอรีบวิ่งไปสร้างผลิตภัณฑ์ที่เรียบง่ายจากความคิดของเธอ ด้วยจักรเย็บผ้าและอาณาจักรหลายล้านดอลลาร์ของเธอก็เกิดขึ้น! ในตอนแรก คิมคิดว่าแนวคิด Wuvit จะเป็นของขวัญที่ดีสำหรับลูกๆของเธอและสำหรับคนในพื้นที่ท้องถิ่นของเธอ แต่ในไม่ช้าเธอรู้ว่าเธอมีความคิดที่มีศักยภาพ เมื่อพ่อแม่ในประเทศเริ่มเรียกเธอในช่วงกลางดึกของคืนเพื่อขอหมอนผ่อนคลายอีกเพราะลูกๆของพวกเขาไม่สามารถนอนหลับได้โดยไม่มี Wuvit  เธอรู้ว่าเธอไดรับโอกาสที่เหลือเชื่อ เธอเริ่มที่จะไปค้าปลีกให้กับลูกค้ารายย่อยและในงานการแสดงงานฝีมือ แล้วในที่สุดก็จุดเปลี่ยนที่สำคัญเมื่อ ห้างสรรพสินค้า Saks จึงตัดสินใจที่จะนำ Wuvit ไปขายในห้างของเขา  ตอนนี้เธอเป็นเศรษฐีและได้เขียนหนังสือเกี่ยวกับความพยายามค้าปลีกของเธอ!

อันดับ 4 ผู้ชายคนที่ขายภาพในหน้าเว็บได้เงินล้าน
ย้อนกลับไปในปี 2005 มีนักเรียนวัย 21 ปี ในประเทศอังกฤษ ชื่อ Alex Tew  เปิดตัว ล้านดอลลาร์โฮมเพจ ผ่านทางการขายภาพขนาด  1,000 × 1,000 ต่อ1ดอลลาร์ในแต่ละครั้ง  แม้ว่ามันจะเป็นความคิดที่เรียบง่าย โครงการที่โดดเด่นดึงดูดจำนวนมหาศาลของพื้นที่ประชาสัมพันธ์ และท้ายที่สุดได้รับ 1,037,100$ ของเดือน – ช่วงสุดท้ายบนหน้าเว็บขายออกไป 38,100$  นอกจากนี้ยังกลับกลายเป็นถูกเว็บไซต์เลียนแบบนับไม่ถ้วน แต่แทบจะล้มเหลวทั้งหมดเนื่องจากความคิดไม่ได้เป็นดังในนิยาย

อันดับ 3 ผู้ชายคนหนึ่งที่สร้างบริษัทที่ให้บริการจดหมายแก้ตัวที่ไม่มาทำงาน
คุณต้องการแก้ตัวที่ไม่มาทำงานหรือไม่?? บริษัทได้เปิดตัวไอเดียธุรกิจ “ข้ออ้าง” ในกรณีที่ไม่สามามาทำงานได้ ในสหรัฐอเมริกาพนักงานและนักศึกษาที่มีภาระ ข้อแก้ตัวของคุณสามารถใช้เพื่อจะขาดงาน บริการเครือข่ายให้บริการทุกความต้องการของจดหมายแก้ตัวของคุณเพียง 25 $ ต่อหมายเหตุข้อแก้ตัว  ผู้ก่อตั้งเริ่มต้นธุรกิจด้วยเงิน 300$ และเริ่มต้นในเมืองเล็กๆอย่าง Oklahoma เว็บไซต์ได้รับประมาณ 15,000 ราย ต่อเดือน

อันดับ 2 พระสงฆ์ที่ขายตลับหมึกเครื่องพิมพ์ได้เงินกว่า 2.5 ล้าน$
บิดาของ Father Bernard McCoy เป็นซีอีโอของ LaserMonks.com ร้านค้าปลีกทางอินเทอร์เน็ตที่ขายตลับหมึกพิมพ์พิเศษและอุปกรณ์สำนักงานอื่น ๆ ลูกค้าของบริษัท ได้แก่ ประชาชนและโบสถ์ พร้อมกับบริษัทยักษ์ใหญ่ เช่น Morgan Stanley (Research) และ  The U.S. Forest Service มันเป็นธุรกิจที่มีผลกำไรมาก ยอดขายได้เพิ่มขึ้นจาก 2,000 $  ในปี2002 ซึ่งเป็นปีแรกของบริษัท จากการดำเนินธุรกิจต่อมาอยู่ที่ประมาณ 2,500,000 $  ในปี 2005  ไอเดียธุรกิจสำหรับ LaserMonks.com เกิดจากบิดาของ McCoy วันหนึ่งเมื่อเครื่องพิมพ์ของเขาหมดน้ำหมึก เขาหาเลือกซื้อตลับหมึกใหม่ไปทั่ว แต่ไม่มีชิ้นไหนที่มีราคาที่สมเหตุสมผล ในช่วงเริ่มต้น LaserMonks.com ประกอบด้วยพระสงฆ์ไม่กี่รูป นั่งรอบผงสีดำและตลับพลาสติกที่ว่างเปล่า ผลิตสินค้าตามคำสั่งซื้อแค่ไม่กี่วัน กระทั่งวันนี้พระสงฆ์กล่าวว่าพวกเขาได้บริการลูกค้ามากกว่า 50,000 ลูกค้าและพวกเขามี 200-300 คำสั่งซื้อทุกวันสำหรับอุปกรณ์การเรียนและสำนักงาน

อันดับ 1 หญิงสาวที่ทำเงิน 1.5 ล้าน โดยนำเสนอรูปแบบ MySpace
เด็กสาววัยรุ่นที่มีไหวพริบสำหรับการก่อให้เกิดไอเดียธุรกิจที่มีความคิดสร้างสรรค์ขึ้นด้วยเว็บไซต์ที่เรียกว่า WhateverLife ที่จะนำเสนอรูปแบบการสอนสำหรับ MySpace ฟรี ตัวเลขของเธอขณะนี้อยู่ในระดับที่น่าประทับใจ เมื่ออายุ 17 ปี เธอออกจากโรงเรียนกลางคันและมาสร้างรายมากกว่า 1 ล้าน $ เธอได้รับมากที่สุดที่ 70K ต่อเดือน และเป็นเจ้าของเว็บไซต์ที่ดึงดูดผู้ชมมากกว่า 7 ล้านคนต่อเดือน และ 60 ล้านผู้ชมหน้าเว็ปไซด์

อ้างอิงจาก : อะเมซิ่งบิวตี้ฟูลเวิลด์
แปลโดย : V. Marry Eros

V.Marry Eros

พันธ์ทิพย์ “V.Marry Eros" จบการศึกษาทางด้านภาษา ไม่ได้มีความรู้ด้านธุรกิจ แต่ความที่หวังจะมีธุรกิจเล็กๆ จึงเริ่มชิมลางด้านงานเขียนบทความธุรกิจ เกิดความหลงใหลในงานเขียนและพัฒนาศักยภาพตัวเองเรื่อยมา ปัจจุบันดำรงตำแหน่งบริหารงานและดูแล

> อย่าเสียเวลาตามวิถีของคนอื่น


> วิธีการออมเงินง่ายๆ ก็รวยได้เหมือนกัน

 วิธีการออมเงินง่ายๆ ก็รวยได้เหมือนกัน




หลายๆคนอยากจะมีเงินเก็บไว้ใช้ในอนาคต ใช้ยามฉุกเฉินหรือใช้จ่ายตามต้องการ ซึ่งการรู้จักเก็บออมจะสามารถช่วยในเรื่องเหล่านี้ได้ แต่การออมเงินก็มีมากมายหลายวิธี วันนี้เราจึงขอนำเสนอ 4 วิธี ออมแบบง่ายๆ ก็รวยได้เหมือนกัน มาดูกันเลยครับ



1. ออมเงินอัตโนมัติ



หลายๆคนอาจจะยังไม่รู้ว่ามีบริการการโอนเงินอัตโนมัติของธนาคาร ทันทีที่เงินเดือนเข้าบัญชีเรา ระบบก็จะทำการโอนเงินส่วนที่เรากำหนดไว้ ไปเข้าบัญชีเงินออมของเราทันที โดยเราสามารถเลือกบัญชีที่จะโอนเข้าไปได้ ไม่ว่าจะเป็นเงินฝากสำหรับกองทุนรวมหรือบัญชีฝากประจำของเราเอง




ซึ่งก่อนจะกำหนดจำนวนเงินที่ต้องการโอนอัตโนมัติ เราควรจะต้องรู้ว่า เรามีค่าใช้จ่ายต่างๆเท่าไร เงินใช้ต่อเดือนเท่าไร และ ออมได้เท่าไร หรืออาจจะลองแบ่งรายจ่ายออกเป็น 3 ส่วน ตามนี้ก็ได้ครับ




● เงินออม 30%




● รายจ่ายต่อเดือน 45%




● ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน 25%




(ตัวเลขเป็นเลขตัวอย่างสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามแต่สภาวะการเงินของแต่ละคน)




2. เปิดบัญชีเงินออม



การเปิดบัญชีเงินออมเป็นอีกวิธีช่วยให้ออมได้ดีขึ้น โดยบัญชีเงินออมก็มีหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับความต้องการของเรา โดยคำนึงถึงเป้าหมายที่ต้องการ และระยะเวลาที่เราต้องการบรรลุเป้าหมายออมเงินของเราเป็นหลัก แล้วจึงดูว่าการลงทุนออมรูปแแบบไหนที่จะเหมาะสมกับเรามากที่สุด โดยการลงทุนออมจะมีหลักๆ 3 ระยะด้วยกัน



● ระยะสั้น: เก็บเงินเอาไว้ใช้ฉุกเฉิน สามารถถอนได้หากมีความจำเป็น อาจจะฝากกับกองทุนรวมตลาดเงิน หรือบัญชีเงินฝากไม่ประจำก็ได้



● ระยะกลาง: เก็บเพื่อการลงทุนต่อยอด เช่น บัญชีฝากประจำ กองทุนรวมตลาดทุน ซื้อทอง ออมหุ้น หุ้นปันผลสูงทั้งหลาย เป็นต้น



● ระยะยาว: เก็บเงินเอาไว้เพื่อการเกษียณอายุ ได้แก่ RMF ประกันชีวิตแบบบำนาญ หรือกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เป็นต้น



3. ซื้อสลากออมสิน



การนำเงินไปลงทุนในสลากออมสิน ถือเป็นรูปแบบหนึ่งของการออม โดยผู้ฝากจะได้รับดอกเบี้ยตามอัตราที่กำหนด และมีสิทธิ์ลุ้นรางวัลทุกเดือน เนื่องจากมีความเสี่ยงต่ำ และไม่ว่าเราจะมีต้นทุนมากหรือน้อย เราก็สามารถลงทุนได้ จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ และการลงทุนในสลากออมสินเริ่มต้นเพียง 50 บาท เท่านั้น (ที่มาข้อมูล : ธนาคารออมสิน)




4. การลงทุนในกองทุน

เราสามารถเลือกออมโดยใช้การลงทุนในกองทุนก็ได้ เพราะจะช่วยให้ออมได้ง่ายและมีเงินปันผลให้อีกด้วย โดยสิ่งแรกที่เราต้องทำคือจะต้องตั้งเป้าหมายให้ได้ก่อนว่า เราจะออมให้ได้เท่าไหร่ ภายในระยะเวลาที่กำหนด 3 ปี หรือ 5 ปีก็แล้วแต่ความเหมาะสมของเรา


ข้อสำคัญก่อนการออมด้วยการลงทุน เราควรจะต้องศึกษารายละเอียดต่างๆให้ดีและดูว่า ระยะสั้น ระยะกลาง หรือระยะยาว แบบไหนเหมาะสมกับเรา เลือกลักษณะการลงทุนให้เหมาะสมกับตัวเองแล้วการออมเงินจะกลายเป็นเรื่องง่ายครับ



การเก็บออมอาจจะทำให้เรามีเงินเก็บไว้ใช้ในอนาคตหรือในยามจำเป็นก็จริง แต่สิ่งสำคัญที่เราไม่ควรลืม คือ ควรใช้จ่ายอย่างประหยัด ไม่ควรฟุ่มเฟือย และสร้างการออมให้เป็นนิสัย จะได้มีวินัยในการใช้เงินครับ



สนับสนุนข้อมูลโดย : www.Masii.co.th
ที่มา : http://money.sanook.com/382379/

วันพฤหัสบดีที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2560

> ซื้อประกันออนไลน์ ที่ไหนดี

ซื้อประกันออนไลน์ https://insure.724.co.th/u/AM00062781
.................................
“ประกันรถยนต์ออนไลน์”
ซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์ 24 ชม.
ถูกกว่าแน่นอน
เลือกซื้อประกัน ง่ายแค่ปลายนิ้ว
-มีบริษัทชั้นนำให้เลือกมากมาย
-สามารถเปรียบเทียบราคาได้เอง
-เลือกซื้อได้เองที่นี่เลยไม่ต้องรอ
“คลิกแล้ว รับกรมธรรม์เลย ”
คลิกเลยซื้อประกันออนไลน์ https://insure.724.co.th/u/AM00062781
-มาตราฐานการรับรอง
-คปภฯ
-DBD กรมพัฒนาธุรกิจการค้าฯ
-สมาคมนายหน้าประกันภัยไทย
-GEOฯ
-----------
หากมีข้อสงสัยโทรในลิ้งได้เลยจะมี จนท. คอย
ให้บริการ 24 ชม.ครับ
คลิกเพจเช็คประกันรถ https://www.facebook.com/CheckPraKunRod/posts/833763803441295
------------------------------
คลิกเพจ เว็บ
เช็คประกันรถ : http://checkprakunrod.blogspot.com/p/blog-page_8.html


วันอาทิตย์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

> พฤติกรรมของคนรวย กับ คนอยากรวย ที่ต่างกัน


พฤติกรรมของคนรวย กับ คนอยากรวย ที่ต่างกัน


พฤติกรรมของคนรวย กับ คนอยากรวย ที่ต่างกัน

Categories : บทความธุรกิจ
Date : 2014-06-20 09:54:06

คนรวยกับคนอยากรวย จริงๆแล้วมันมีเส้นบางๆแบ่งกั้นกันอยู่ คุณว่าไหม?? แท้จริงของความรวยไม่ได้ขึ้นอยู่กับเงินทองที่มีมากหรือมีน้อยกว่ากัน ถ้าเกิดคุณถูกหวย 10ล้าน แบบนี้ถือว่าคุณรวยหรือยัง เป็นคำถามที่น่าคิดนะครับ เพราะที่พูดแบบนี้ไม่ใช่ว่าความรวยจะวัดกันที่จำนวนเงินเพียงอย่างเดียว แต่มันต้องสอดคล้องกับพฤติกรรมต่าง การใช้ชีวิต ความคิด นิสัยใจคอด้วย ฉะนั้นในบทความนี้เราจะมาดูกันว่าพฤติกรรมของคนที่รวยกับคนที่อยากรวยนั้นแตกตางกันอย่างไร และต้องมีพฤติกรรมแบบไหนถึงจะเป็นคนรวยที่แท้จริงได้
โดยเนื้อหานี้ ผมได้หยิบยกส่วนหนึ่งมาจาก ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ผู้ซึ่งเป็นนกัเขียนอีกท่านที่สามารถถ่ายทอดความรู้เรื่องการเล่นหุ้น การใช้เงิน การสร้างตนให้เป็นมหาเศรษฐีได้อย่างดี พฤติกรรมที่ต่างกัน จะมีอะไรบ้างไปดูกันครับ
คนรวยมองการไกล คนอยากรวยมองแค่ใกล้ๆ
คนรวยเวลลาทำอะไรมักจะมีการวางแผน มองไปถึงอนาคต มีการจัดการว่าต่อไปอีกกี่เดือนๆ เขาจะต้องทำอะไรบ้าง และเขาจะได้อะไรจากสิ่งที่เขาทำลงไป เป้าหมายของคนกลุ่มนี้จะชัดเจนมาก ซึ่งมีความชัดเขนการกระทำก็ต้องชัดเจนด้วย ไม่ใช่แค่ฝันแต่ไม่ได้ทำ ส่วนคนที่อยากรวย หวังเพื่อแต่วันต่อวัน จะใช้คำว่าหาเช้ากินค่ำก็ได้นะ เพราะคนเหล่านี้จะมองแค่ว่าฉันทำงานฉันได้เงิน  และพรุ่งนี้ฉันจะทำงานต่อเพื่อให้ได้เงินมาอีก
คนรวยชอบพูดเรื่องไอเดีย คนอยากรวยชอบพูดเรื่องสิ่งของ
ข้อนี้ดู งงๆ สักนิดใช่ไหมครับ ที่บอกว่าคนรวยของพูดเรื่องไอเดีย ก็คือว่าคนเหล่านี้มักจะมีโครงการ หรือโปรเจคต่างๆอยู่ในหัวสมองมากกมาย ทำยังไงให้เงินที่มีอยู่มันงอกเงย ทำยังไงให้หาเงินได้มากจากที่เคยได้ เขาจะไม่ได้มานั่งคิดว่าต้องซื้อรถ ต้องซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม ต้องกินร้านอาหารแพง ซึ่งพฤติกรรมที่พูดมานั้นก็เป็นพฤติกรรมของคนที่อยากรวยหรือคิดว่าตนเองรวยแล้ว เวลาได้เงินมาเขาก็มักจะคิดถึงเรื่องการจับจ่ายซื้อสิ่งของ หรือการโอ้อวดว่าฉันมีรถคันใหม่ ฉันใช้ของแพง ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้อาจจะทำให้คุณดูรวยได้ แต่ลองมองกลับกันสิ พฤติกรรมแบบนี้เหมือนคุณกำลังเอาเงินไปทิ้งเพราะไม่นานสิ่งของทั้งหมดที่คุณซื้อหามาได้ก็จะเป็นแค่ของไร้ค่าไร้ราคาไปในที่สุด
คนรวยเน้นสร้างกำไร คนอยากรวยเน้นได้ค่าจ้าง
คนรวยคิดตลอดว่าจะทำให้เงินก้อนนี้ออกดอก ออกผลอย่างไรให้มากที่สุด ซึ่งสิ่งเหล่านั้นจะกลายมาเป็นกำไร ของการทำงานของเขา การเน้นสร้างกำไรไม่จำเป็นว่าต้องทำกิจการเพียงอย่างเดียว พนังงานบริษัทมนุษย์เงินเดือน ก็ทำได้แค่ต้องรู้จักใช้เงินหาเงินให้เราแค่นั้นเอง อย่าหวังแต่รายได้ หรือเงินเดือน ที่ต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อแลกกับเงินเดือนที่เพิ่มสูงขึ้น

ไม่ว่าตอนนี้คุณจะมีพฤติกรรมแบบไหน ต่างจากพฤติกรรมที่กล่าวมารึเปล่าไม่สำคัญ สำคัญตรงที่คุณจะนำสิ่งเหล่านี้ไปปรับใช้กับการดำเนินชีวิตคุณได้หรือเปล่า เพราะพฤติกรรมที่นำเสนอมาเป็นสิ่งที่ทุกคนควรจะกระทำเพราะเป็นสิ่งที่ทำแล้วทำให้เกิดแต่สิ่งดีๆกับตัวเองจริงๆ อยากรวยต้องเริ่มสร้าง อยากมีรายได้ที่มากว่าต้องหาช่องทางเสริม 

Follow Us On